รีวิว 5 ไดร์เป่าขนสุนัขที่ดีที่สุด

รีวิว 5 ไดร์เป่าขนสุนัขที่ดีที่สุด

ในฐานะพ่อแม่น้องหมาอย่างเราก็สุขใจเมื่อได้เห็นเจ้าตูบของเรามีขนปุยยนุ่มและสุขภาพดี นอกจากเราจะดูแลขนให้สวยด้วยแชมพูและอาหารเสริมอย่างน้ำมันปลาแซลมอนด้วยแล้ว การดูแลรักษาขนหลังจากอาบน้ำก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือการเป่าขนน้องหมาให้แห้งนั่นเอง

วันนี้ NongPets ก็จะมาพูดถึงไดร์เป่าขนสุนัขที่เป็นอุปกรณ์สำคัญในการเป่าขนน้องหมา เราจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของไดร์, ตารางเปรียบเทียบไดร์ขนสุนัขและไดร์เป่าผมธรรมดา, เทคนิคการเป่าขนน้องหมาให้ถูกวิธี และวิธีการเลือกซื้อไดร์เป่าขนสุนัข การเลือกใช้ไดร์เป่าขนสุนัขให้เหมาะสมกับน้องหมาของคุณนั้น ก็สามารถสร้างความแตกต่างในการดูแลรักษาขนได้มากขึ้น พร้อมทั้งประหยัดเวลาผู้เลี้ยงอีกด้วย 

นอกจากนี้เราจะมารีวิวไดร์เป่าขนสุนัขทั้ง 5 ยี่ห้อที่เราได้คัดสรรมาให้ผู้อ่านได้พิจารณาซื้อไปใช้กับน้องหมาที่บ้านกัน จะมียี่ห้อไหนที่ถูกใจคุณบ้างนั้น มาดูกันเลย!

NongPets แนะนำ!

สินค้าที่ดีที่สุดโดยรวม
Doghairdryer1
ไดร์เป่าขนสุนัขพลังเทอร์โบ แห้งไว ปลอดภัย
  • ราคา: ≈ 1,990 บาท
  • เหมาะกับสายพันธุ์: น้องหมาทุกขนาด ทุกสายพันธุ์
  • คุณสมบัติพิเศษ: สายเป่ายืดยาวได้มากกว่า 2.5 เมตร และหัวเป่าเป็นฉนวนกันร้อน
คุ้มค่า ราคาสบายกระเป๋า
Doghairdryer2
ไดร์เป่าขนสุนัขขนาดพกพา ต้านเชื้อแบคทีเรีย
  • ราคา: ≈ 699 บาท
  • เหมาะกับสายพันธุ์: น้องหมาทุกขนาด ทุกสายพันธุ์
  • คุณสมบัติพิเศษ: เป็นได้ทั้งไดร์ไล่น้ำและไดร์เป่าร้อนไปในตัว และสามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย
สินค้าคุณภาพพรีเมียม
Doghairdryer5
ไดร์เป่าขนสุนัขปล่อยประจุลบ ดูแลขนสวย ต้านแบคทีเรีย
  • ราคา: ≈ 2,290 บาท
  • เหมาะกับสายพันธุ์: น้องหมาทุกขนาด ทุกสายพันธุ์
  • คุณสมบัติพิเศษ: ไดร์เป่าปล่อยประจุลบ ช่วยลดแบคทีเรียและดูแลขนและผิวหนัง

รีวิว 5 ไดร์เป่าขนสุนัขที่ดีที่สุด

ในปัจจุบันคุณสามารถเลือกซื้อไดร์เป่าขนสุนัขได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นตามห้างร้านค้าต่างๆ หรือแม้แต่ช่องทางออนไลน์ ซึ่งในวันนี้ NongPets ก็จะมารีวิวไดร์เป่าขนสุนัขทั้ง 5 ยี่ห้อที่เราได้คัดสรรมาให้คุณแล้ว โดยเราจะพิจารณาจากแรงลม, ระดับความร้อน, ระดับเสียง และคุณสมบัติพิเศษ จะมียี่ห้อไหนโดนใจคุณบ้างนั้น มาดูกัน!

1. ไดร์เป่าขนสุนัขพลังเทอร์โบ แห้งไว ปลอดภัย (฿฿)

Doghairdryer1
รายละเอียดสินค้า
  • ราคา: ≈ 1,990 บาท
  • แรงลม: 2,800 วัตต์
  • ความร้อน: อุณหภูมิห้อง/ลมอุ่น/ลมร้อน
  • ระดับเสียง: 60 เดซิเบล
  • เหมาะกับสายพันธุ์: น้องหมาทุกขนาด ทุกสายพันธุ์
  • คุณสมบัติพิเศษ: สายเป่ายืดยาวได้มากกว่า 2.5 เมตร และหัวเป่าเป็นฉนวนกันร้อน

ไดร์เป่าขนพลังงานเทอร์โบ ลมแรง รับประกันความแห้งไว เหมาะมากกับน้องหมาตัวใหญ่และน้องหมาขนหนา แถมยังปลอดภัยใช้กับน้องหมาตัวเล็กได้อีกด้วย และคุณสมบัติเด่นของไดร์เป่าตัวนี้ก็คือ

  • ลมแรง แห้งไว: ไดร์เป่ามีแรงลม 2,800 วัตต์ ช่วยทำให้แห้งเร็ว น้องหมาตัวใหญ่ใช้เวลา 20-30 นาที และน้องหมาตัวเล็กใช้เวลาเพียงแค่ 10-15 นาทีเท่านั้น
  • ลดเสียงดัง: หมดปัญหาเสียงรบกวนน้องหมาของคุณได้เลย เพราะตัวไดร์มีระดับเสียงเพียงแค่ 60 เดซิเบลเท่านั้น
  • ปรับความร้อนได้ถึง 3 ระดับ: มีลมร้อน, ลมอุ่น และลมเย็นให้เลือก
  • มาพร้อมกับหัวเป่า 4 แบบ: หัวเป่าแต่ละแบบขึ้นอยู่กับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการเป่าแห้งหรือจัดแต่งทรง มีหัวเป่าปากแคบ, หัวเป่าปากแคบแบบกว้าง,​ หัวเป่าปากกลม และหัวเป่าทรงหวี
  • สะดวกต่อการใช้งาน: ตัวไดร์น้ำหนักเบา มาพร้อมขาตั้งกันลื่นและด้ามจับที่แข็งแรง สายเป่าสามารถยืดหยุ่นได้มากว่า 2.5 เมตร
  • ปลอดภัยต่อน้องหมา: ตัวหัวเป่าเป็นฉนวนกันร้อน ไม่ลวกผิวน้องหมาจากการสัมผัส
  • ของแถมมากมาย: แถมฟรีถุงมืออาบน้ำ, เสื้อคลุม, ผ้าเช็ดตัว 2 ผืน, หวีแปรงสแตนเลส และตัวกรองฝุ่น

2. ไดร์เป่าขนสุนัขขนาดพกพา ต้านเชื้อแบคทีเรีย (฿)

Doghairdryer2
รายละเอียดสินค้า
  • ราคา: ≈ 699 บาท
  • แรงลม: 2,200 วัตต์
  • ความร้อน: ลมปกติ/ลมอุ่น/ลมร้อน
  • ระดับเสียง: 40-50 เดซิเบล
  • เหมาะกับสายพันธุ์: น้องหมาทุกขนาด ทุกสายพันธุ์
  • คุณสมบัติพิเศษ: เป็นได้ทั้งไดร์ไล่น้ำและไดร์เป่าร้อนไปในตัว และสามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย

สำหรับใครที่ชอบพาน้องหมาเดินทางบ่อย เราขอแนะนำไดร์เป่าขนแบบพกพาได้ตัวนี้เลย ตนสามารถใช้ได้ ปลอดภัยต่อน้องหมา แถมราคาสบายกระเป๋า เหมาะกับคนงบน้อย และคุณสมบัติเด่นของไดร์เป่าขนมีดังนี้

  • ลมแรง กระจายทั่วร่างกาย: ไดร์ตัวนี้มีแรงลม 2,200 วัตต์ สามารถใช้ได้กับน้องหมาทุกสายพันธุ์ และตัวปากไดร์ถูกออกแบบมาให้มีรูปปากสั้นใหญ่ ทำให้มีปริมาณลมออกมาในปริมาณมาก สามารถกระจายได้ทั่วตัว
  • เสียงเบา: ไดร์เป่าผมมีระดับเสียงเพียงแค่ 40-50 เดซิเบลเท่านั้น
  • เป่าได้ทั้งลมร้อน-เย็น: สามารถปรับระดับความร้อนได้ 3 ระดับ ลมปกติ, ลมอุ่น และลมร้อน เป็นได้ทั้งไดร์ไล่น้ำ และไดร์ร้อนเป่าแห้ง
  • ประหยัดพลังงาน: ตัวมอเตอร์ทำจากทองแดงบริสุทธิ์ การใช้งานเสถียรยิ่งขึ้น ช่สนชชวยประหยัดพลังงาน
  • ต้านแบคทีเรีย: ตัวไดร์ปล่อยลมประจุไออนลบ ช่วยในการต้านแบคทีเรีย
  • ปลอดภัยต่อทั้งคนและสุนัข: ตัวไดร์ทำจากอลูมิเนียม มีฉนวนกันร้อน โดนน้ำแล้วไม่เป็นสนิม
  • สะดวกต่อการใช้งาน: ไดร์มีน้ำหนักเบา พกพางสะดวก แถมมีสายยาวยืด-หดได้มากกว่า 1.8 เมตร

3. ไดร์เป่าขนสุนัข 3in1 ต้านเชื้อแบคทีเรียและจัดแต่งทรงสวย (฿)

Doghairdryer3
รายละเอียดสินค้า
  • ราคา: ≈ 1,399 บาท
  • แรงลม: 1,450 วัตต์
  • ความร้อน: ลมปกติ/ลมอุ่น/ลมร้อน
  • ระดับเสียง: 40-50 เดซิเบล
  • เหมาะกับสายพันธุ์: น้องหมาทุกขนาด ทุกสายพันธุ์
  • คุณสมบัติพิเศษ: เป็นได้ทั้งไดร์ไล่น้ำและไดร์เป่าร้อนไปในตัว และสามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย

นวัตกรรมไดร์เป่าขนสุนัขรูปแบบใหม่ 3 in1 ที่เป็นทั้งไดร์เป่าแห้ง, ไดร์เป่าไล่น้ำ และหวีจัดทรง มาพร้อมกับคุณสมบัติเด่นมากมายดังนี้

  • เสียงเบา: ระดับเสียงอยู่ที่ 40-50 เดซิเบล
  • เป่าได้ทั้งลมร้อน-เย็น: สามารถปรับระดับความร้อนได้ 3 ระดับ ลมปกติ, ลมอุ่น และลมร้อน
  • มาพร้อมกับ 3 หัวเป่า: สามารถใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้นด้วยหัวเป่าปากแบน, หัวเป่าปากกลม และหัวเป่าทรงหวี
  • ต้านเชื้อแบคทีเรีย จัดแต่งทรงสวย: ด้วยนวัตกรรมลมเป่าออกด้วยไอออนลบ สามารถต้านแบคทีเรีย และยังช่วยให้ขนไม่ชี้ฟู หวีง่าย จัดแต่งทรงน้องหมาได้ง่ายขึ้น
  • แข็งแรงทนทาน ใช้งานสะดวก: ตัวไดร์น้ำหนักเบา ไม่เป็นสนิม อายุการใช้งานนาน

4. ไดร์เป่าขนสุนัขอัจฉริยะ คุณภาพพรีเมียม (฿฿฿)

Doghairdryer4
รายละเอียดสินค้า
  • ราคา: ≈ 2,300 บาท
  • แรงลม: 2,000 วัตต์
  • ความร้อน: ลมปกติ/ลมอุ่น/ลมร้อน
  • ระดับเสียง: 57 เดซิเบล
  • เหมาะกับสายพันธุ์: น้องหมาทุกขนาด ทุกสายพันธุ์
  • คุณสมบัติพิเศษ: หน้าจอแสดงเป็น LED ผู้เลี้ยงสามารถปรับอุณหภูมิ +/- ได้ตามใจชอบ

ไดร์เป่าขนสุดอัจฉริยะ คุณภาพพรีเมียม มาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียบหรู สวยงาม สไตล์มินิมอล ซึ่งคุณสมบัติเด่นมีดังนี้

  • แรงลมทรงพลัง: ด้วยกำลังแรงลมถึง 2,000 วัตต์ เป่าแห้งไว และปรับความเร็วลมได้ตามใจชอบจากหน้าจอ LED
  • เสียงเงียบ: มีระดับเสียงแค่ 57 เดซิเบล
  • ปรับอุณหภูมิได้ตามใจชอบ: หน้าจอแสดงอุณหภูมิเป็นแบบ LED สามารถปรับอุณหภูมิ +/- ได้ตามใจชอบ
  • จัดทรงได้หลากหลาย: มาพร้อมกับ 2 หัวเป่า หัวเป่าปากแคบและหัวเป่าทรงกลม
  • ใช้ง่าย สะดวกสบาย: ตัวสายเป่ามีด้ามจัดถนัดมือ มีคุณสมบัติกันลื่น
  • ปลอดภัยต่อสุนัข: หัวเป่าเป็นฉนวนกันร้อน ไม่ลอกผิวน้องหมาจากการสัมผัส

5. ไดร์เป่าขนสุนัขปล่อยประจุลบ ดูแลขนสวย ต้านแบคทีเรีย (฿฿฿)

Doghairdryer5
รายละเอียดสินค้า
  • ราคา: ≈ 2,290 บาท
  • แรงลม: 1,200-2,800 วัตต์
  • ความร้อน: สามารถปรับอุณหภูมิ +/- ได้ตามใจชอบ
  • ระดับเสียง: น้อยกว่า 60 เดซิเบล
  • เหมาะกับสายพันธุ์: น้องหมาทุกขนาด ทุกสายพันธุ์
  • คุณสมบัติพิเศษ: ไดร์เป่าปล่อยประจุลบ ช่วยลดแบคทีเรียและดูแลขนและผิวหนัง

มาถึงไดร์เป่าขนสุนัขคุณภาพดีอีกตัวหนึ่ง ไดร์ตัวนี้นอกจากจะช่วยเป่าแห้งแล้ว ยังช่วยดูแลขนน้องให้สวยงามอีกด้วย และคุณสมบัติเด่นของไดร์เป่าขนมีดังนี้

  • แรงลมหลายระดับ: สามารถปรับระดับแรงลมได้ตามชอบด้วยสวิตช์ +/- ซึ่งแรงลมเครื่องเป่านี้อยู่ในระดับ 1,200-2,800 วัตต์
  • ปรับอุณหภูมิได้ตามใจชอบ: สามารถปรับอุณหภูมิด้วยสวิตช์ +/- ได้ตามใจชอบ
  • เสียงเงียบ: ระดับเสียงน้อยกว่า 60 เดซิเบล
  • จัดทรงง่าย: มาพร้อมกับ 4 หัวเป่าตามการใช้งาน หัวเป่าปากแคบ, หัวเป่าปากแคบกว้าง, หัวเป่าปกกลม และหัวเป่าทรงหวี
  • ลดแบคทีเรีย ดูแลผิวหนัง: ด้วยนวัตกรรมการเป่าแห้งแบบประจุลบ ช่วยลดแบคทีเรีย และดูแลขนและผิวหนังน้องหมาให้มีสุขภาพดี
  • สะดวกสบายต่อการใช้งาน: ตัวไดร์มีขากันลื่น และมีสายเป่ายาวยืดหยุ่นมากกว่า 2.5 เมตร
  • ทำความสะอาดง่าย: เพียงแค่เปิดฝาหลังไดร์ เอาแผ่นกรองออกมาทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย

ประโยชน์ของไดร์เป่าขนสุนัขคืออะไร?

ประโยชน์ของไดร์เป่าขนสุนัข

1. ช่วยให้ขนสุนัขแห้งสนิท ป้องกันโรคผิวหนัง

ไดร์เป่าขนสุนัขถูกออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพสูงในการเป่าขนน้องหมาให้แห้ง โดยเฉพาะกับน้องหมาขนยาวหรือขนสองชั้น หากเราปล่อยให้น้องหมามีขนเปียกชื้น อาจเกิดแบคทีเรียและเชื้อราเกิดขึ้นบนผิวหนังได้ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคผิวหนังต่างๆอย่างเช่น โรคผิวหนังอักเสบหรือโรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง เป็นต้น

2. ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในหูของสุนัข

การที่น้องหมามีหูเปียกหรือน้ำขังอยู่ในหูก็สามารถทำให้หูของน้องติดเชื้อจากแบคทีเรียและเชื้อราได้ โดยเฉพาะน้องหมาสายพันธุ์ที่มีหูพับลง (เช่น พุดเดิ้ล, บีเกิล, ดัชชุน, มอลทีส, ฯลฯ) หูน้องจะแห้งช้าและมีโอกาสติดเชื้อได้มากกว่าสายพันธุ์อื่น ดังนั้นเราควรมั่นใจว่าหูน้องแห้งสนิท โดยการใช้ไดร์เป่าขนสุนัขที่สามารถปรับอุณหภูมิให้ต่ำและกำลังไฟให้ต่ำลง เพื่อการเป่าหูน้องใหเแห้งโดยเฉพาะ

3. ลดกลิ่นเหม็นอับของสุนัข

น้องหมาที่ขนไม่แห้ง ก็อาจทำให้มีกลิ่นตัวที่เหม็นอับจากการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้ ดังนั้นการใช้ไดร์เป่าขนที่แห้งสนิทก็สามารถป้องกันกลิ่นตัวของน้องได้

4. ช่วยให้สุนัขลดความเครียดและความวิตกกัลวล

น้องหมาบางตัวก็มีอาการตื่นกลัวจากเสียงและแรงลมของไดร์เป่าผมแบบธรรมดา ดังนั้นไดร์เป่าขนสุนัขถูกออกแบบมาเพื่อสามารถตั้งค่าการใช้งานเพื่อน้องหมาโดยเฉพาะ อย่างเช่น การปรับอุณหภูมิ, ความแรงลมที่เหมาะสม และมีเสียงที่ไม่ดังจนเกินไป สิ่งเหล่านี้ก็สามารถช่วยน้องหมาลดความเครียดและความวิตกกังวลลงทุกครั้งจากการเป่าขนได้

5. สามารถกำจัดขนร่วงในขนชั้นในได้

น้อองหมาสายพันธุ์ที่มีขนหนาและขนสองชั้นอย่างเช่น โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ หรือไซบีเรียน ฮัสกี้ จะมีขนร่วงเยอะมากกว่าสายพันธุ์อื่น ไดร์เป่าขนสุนัขที่สามารถปรับความแรงลมในการเป่าขน จะสามารถช่วยกำจัดขนร่วงที่ตายไปแล้วในขนชั้นในของน้องหมาได้ ทำให้น้องหมามีขนร่วงตกภายในบ้านน้อยลง สามารถช่วยผู้เลี้ยงประหยัดเวลาในการทำความสะอาดขนร่วงได้มากขึ้น

ไดร์เป่าขนสุนัข VS ไดร์เป่าผมธรรมดา

NongPets ได้ทำตารางเปรียบเทียบระหว่างไดร์เป่าขนสุนัขและไดร์เป่าขนธรรมดาว่าสองชนิดนี้มีข้อแตกต่างการใช้งานอย่างไรบ้าง และทำไมเราถึงควรใช้ไดร์เป่าขนสุนัข

ปัจจัย ไดร์เป่าขนสุนัข ไดร์เป่าผมธรรมดา
จุดประสงค์การใช้งาน
ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับน้องหมาโดยเฉพาะ เพราะตัวไดร์จะมีความร้อนต่ำและความแรงลมที่ไม่แรงเท่าของมนุษย์
ออกแบบมาเพื่อการใช้งานกับมนุษย์ ซึ่งตัวไดร์จะมีความร้อนมากกว่าและมีความแรงลมมาก เพื่อการเป่าแห้งแบบมีประสิทธิภาพ
ระดับเสียง
มีตัวเลือกระดับเสียงแบบเงียบหรือมีความดังน้อย เพราะน้องหมาค่อนข้างอ่อนไวต่อเสียง
โดยปกติแล้วจะมีเสียงดัง โดยเฉพาะหากเปิดด้วยแรงลมที่สูง
การปรับความร้อน
สามารถปรับความร้อนที่เหมาะสมกับน้องหมา โดยที่ไม่ร้อนจนเกินไป เพราะน้องหมามีความอ่อนไหวต่ออุณหภูมิมมากกว่ามนุษย์
สามารถปรับความเย็น-ร้อนมาก ซึ่งความร้อนจะร้อนเกินไปสำหรับน้องหมา
การปรับความแรงลม
สามารถปรับแรงลมได้ตามต้องการ ขึ้นอยู่กับขนาดและสายพันธุ์น้องหมา แต่จะไม่แรงเท่ากับไดร์ของมนุษย์
สามารถปรับแรงลมได้ตามต้องการ แต่แรงลมมักจะแรงเกินไปสำหรับผิวน้องหมา
หัวไดร์เป่าผม
มีให้เลือกหลายหัว เพื่อความเหมาะสมของชนิด, สายพันธุ์, ลักษณะของขนน้องหมา
มักมากับหัวเป่าปากแคบแบบเดียว เพื่อการเป่าผมเฉพาะจุดและให้ผมเรียบตรง
ฟังก์ชันความปลอดภัย
ไดร์เป่าขนมักมากับฟังก์ชัน ป้องกันความร้อนที่สูงเกินไป เพื่อป้องกันผิวหนังที่บอบบางของน้องหมา
มีฟังก์ชันรักษาความปลอดภัยสำหรับมนุษย์อย่างเช่น ป้องกันผมเสีย ซึ่งฟังก์ชันนี้ไม่จำเป็นสำหรับน้องหมา

สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อไดร์เป่าขนสุนัข

การเลือกซื้อไดร์เป่าขนสุนัขให้เหมาะสมกับน้องหมาของคุณนั้น นอกจากจะทำให้การเป่าขนแห้งแบบมีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยผ่อนแรงให้กับผู้เลี้ยงอีกด้วย แต่ว่าหากเราจะเลือกไดร์เป่าขนสุนัขดีๆสักชิ้นนั้นจะต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง NongPets ก็ได้แนะนำวิธีการเลือกซื้อมาไดร์เป่าขน เพื่อให้ช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น ดังนี้

1. ขนาดและสายพันธุ์ของสุนัข

สุนัขแต่ละขนาดและสายพันธุ์ก็มีความยาวและความหนาของขนที่ไม่เหมือนกัน หากคุณมีน้องหมาตัวใหญ่ที่มีขนหนาและยาว ก็ควรเลือกไดร์เป่าขนที่สามารถปรับระดับความแรงลมสูง ที่สามารถเข้าถึงขนชั้นในได้ ในขณะที่น้องหมาตัวเล็กจะมีผิวที่บอบบางและอ่อนไหวต่ออุณหภูมิมากกว่าน้องหมาตัวใหญ่ ดังควรเลือดไดร์ที่มีฟังก์ชันที่สามารถปรับระดับความแรงลมและอุณหภูมิที่ต่ำได้

ลักษณะของหัวไดร์เป่าขนกับสายพันธุ์ของสุนัข

ไดร์เป่าขนสุนัขมักมาพร้อมกับหัวเป่าหลากหลายรูปแบบตามความเหมาะสมของความยาวและลักษณะขนของน้องหมาแจ่ละสายพันธุ์ อย่างเช่น

  • หัวเป่าปากกลม: เหมาะแก่การเป่าแห้งทั่วร่างกาย
  • หัวเป่าปากแคบ: เหมาะกับน้องหมาที่มีขนเรียบตรงปานกลาง-ยาว และเหมาะแก่การใช้ในบริเวณที่เข้าถึงยากอย่างเช่น หู, อุ้งเท้า และใต้ท้อง
  • หัวเป่าแบบหวี: เหมาะกับน้องหมาที่มีขนยาวและขนร่วงเยอะ หัวเป่าแบบหวีจะช่วยคลายขนที่พันกันและช่วยให้ขนตรงสวยเรียบ

2. กำลังไฟของไดร์เป่าขนสุนัข

กำลังไฟของไดร์เป่าขนก็เป็นตัววัดที่สำคัญในการพิจารณาเลือกซื้อ เพราะกำลังไฟไดร์เป่าขนก็เหมาะกับขนาดและสายพันธุ์ของน้องหมาที่แตกต่างกันออกไป โดยปกติแล้วการเลือกกำลังวัตต์ที่เหมาะสมกับขนน้องหมา มีดังต่อไปนี้

  • กำลังวัตต์ต่ำ (ไม่เกิน 1000 วัตต์): ไดร์เป่ากำลังวัตต์ต่ำจะมีพลังที่ไม่แรงเกินไปและไม่ค่อยเสียงดัง จึงเหมาะกับน้องหมาที่มีผิวอ่อนโยน อย่างเช่นน้องหมาพันธุ์เล็กหรือขนสั้นบาง
  • กำลังวัตต์ปานกลาง (1000-1800 วัตต์): ไดร์เป่ากำลังวัตต์ปานกลางจะมีพลังที่ไม่แรงและไม่เบาจนเกินไป เหมาะกับน้องหมาขนาดปานกลาง หรือน้องหมาที่มีขนยาว/ความหนาปานกลาง
  • กำลังวัตต์สูง (1800-2800 วัตต์): ไดร์เป่ากำลังวัตต์สูงจะมีความแรงลมสูง ที่ช่วยให้ขนแห้งไว จึงเหมาะกับน้องหมาตัวใหญ่หรือขนหนาสองชั้น

3. ความร้อนและความแรงลมของไดร์เป่าขนสุนัข

น้องหมาแต่ละตัวก็มีความอดทนต่อความร้อนแรงลมที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นให้เลือกไดร์เป่าขนที่สามารถปรับอุณหภูมิและแรงลมที่เหมาะสมต่อน้องหมาของเรา นอกจากนี้การปรับอุณหภูมิก็ขึ้นอยู่กับขนาดและลักษณะขนของน้องหมา ซึ่งอุณหภูมิของไดร์เป่าขนควรอยู่ในระดับที่ต่ำ ไม่ร้อนจนเกินไป โดยรวมแล้วเราสามารถแบ่งตามลักษณะขนได้ดังนี้

  • น้องหมาพันธุ์เล็ก/ขนสั้น: ควรปรับอุณหภูมิให้ต่ำมากที่สุด หรือใช้แรงลมเย็นถ้าเป็นไปได้ เพราะผิวหนังของน้องมีความบอบบางและผิวไหม้จากความร้อน
  • น้องหมาพันธุ์กลาง-ใหญ่/ขนหนา: น้องสามารถทนต่ออุณหภูมิสูงได้ แต่ก็ไม่ควรร้อนจนเกินไป

4. การปรับระดับเสียงของไดร์เป่าขนสุนัข

เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าน้องหมาจะมีความอ่อนไหวต่อเสียงมากกว่ามนุษย์ ดังนั้นเสียงของไดร์เป่าขนอาจทำให้น้องรู้สึกเครียดและวิตกกังวลได้ เราควรเลือกไดร์เป่าขนที่มีเสียงดังน้อยที่สุด ซึ่งโดยปกติแล้วเสียงไม่ควรดังเกิน 70 เดซิเบล ยิ่งมีค่าเดซิเบลน้อยยิ่งดีสำหรับน้องหมา และในปัจจุบันก็มีหลายยี่ห้อที่ออกแบบมาให้ไดร์เป่าขนมีเสียงที่ดังน้อยมากที่สุดหรือเงียบมาก

5. ฟังก์ชันความปลอดภัย

ไดร์เป่าผมที่มาพร้อมกับฟังก์ชันรักษาความปลอดภัยนั้น ก็ทำให้ผู้เลี้ยงมั่นใจในการใช้ไปอีกระดับ ฟังก์ชันความปลอดภัยที่มักมาพร้อมกับไดร์เป่าผมนั้นเช่น ฟังก์ชันการป้องความร้อนที่มากเกินไป หรือเซนเซอร์ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ เพื่อให้อุณภูมิคงที่เหมาะกับน้องหมาของคุณ เป็นต้น

เทคนิคการใช้ไดร์เป่าขนสุนัขอย่างไรให้ปลอดภัย

เทคนิคการใช้ไดร์เป่าขนสุนัขอย่างไรให้ปลอดภัย

1. แนะนำสุนัขให้คุ้นชินกับไดร์เป่าขน

หลังจากที่น้องอาบน้ำเสร็จแล้ว หากน้องหมาที่ไม่คุ้นชินกับเสียงไดร์เป่าขน ให้คุณเริ่มจากการที่เปิดไดร์เป่าด้วยแรงลมที่เบาที่สุดในระยะห่างๆ ตัวไดร์เป่าขนไม่ควรเข้าใกล้น้องมากเกินไป หากน้องเริ่มสงสัยด้วยการเข้าไปดม ให้คุณเตรียมขนมเป็นรางวัลให้น้อง เพื่อเป็นแรงจูงใจให้น้องไม่กลัวการใช้ไดร์เป่าขน

2. เริ่มใช้ไดร์เป่าขนสุนัขด้วยอุณหภูมิและแรงลมที่ต่ำ

จากนั้นให้เริ่มเป่าขนน้องด้วยแรงลมและอุณหภูมิที่ต่ำก่อนเพื่อให้น้องได้ปรับตัว น้องหมาเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างอ่อนไหวกับเสียงและอุณหภูมิ หากเราใช้ไดร์ในระดับแรงลมและความร้อนที่สูงจนเกินไป ก็อาจทำให้น้องกลัวหรือวิตกกังวลในการใช้ไดร์เป่าขน

3. เว้นระยะห่างของไดร์เป่าขนและตัวสุนัขอย่างพอเหมาะ

ให้เป่าขนโดยเว้นระยะห่างจากไดร์ถึงตัวน้องประมาณ 12 นิ้ว และเป่าให้ทั่วตัว เราจะไม่เป่าในจุดใดจุดหนึ่งนานๆ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ไดร์ในจุดที่บอบบางอย่างเช่น บริเวณรอบหน้าและดวงตา ในจุดนี้ให้ใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดแทน หรือถ้าหากจำเป็นต้องใช้จริงๆ ให้ใช้ไดร์ในโหมดที่ต่ำที่สุดและเว้นระยะห่างพอสมควร

4. เน้นใช้ไดร์เป่าผมในจุดอับและจุดที่แห้งช้า

ในบริเวณจุดอับหรือแห้งช้าอย่างเช่น หู, ข้อพับขา และอุ้งเท้า ให้คุณใช้ไดร์ในโหมดที่ต่ำที่สุด โดยเน้นการเป่าบริเวณนี้ให้แห้ง โดยเฉพาะตรงบริเวณอุ้งเท้า เพราะในบริเวณจะมีโอกาสติดเชื้อจากแบคทีเรียค่อนข้างสูง

5. ให้รางวัลและคำชมแก่สุนัขเสมอ

หากว่าน้องยังไม่คุ้นชินในการใช้ไดร์เป่าขน ผู้เลี้ยงควรใช้ขนมและหมั่นให้คำชมแก่น้องเสมอในการใช้ไดร์เป่าขนทุกครั้ง เพื่อเป็นแรงจูงใจและเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้ไดร์เป่าขนในอนาคต

คำถามเกี่ยวกับไดร์เป่าขนสุนัขที่พบบ่อย

Q: ไดร์เป่าขนสุนัขปลอดภัยต่อสุนัขทุกสายพันธุ์หรือไม่?
A: ไดร์เป่าขนปลอดภัยต่อสุนัขทุกสายพันธุ์ แต่ผู้เลี้ยงก็ควรคำนึงในปัจจัยในด้านต่างๆอย่างเช่น น้องหมาที่มีผิวบอบบางหรือน้องหมาขนสั้น ก็ควรเลือกใช้ไดร์เป่าขนที่มีแรงลมต่ำและสามารถปรับอุณหภูมิต่ำได้ หรือน้องหมาที่มีขนหนา ก็ต้องได้รับการเป่าแห้งแบบมีประสิทธิภาพ โดยการเลือกใช้ไดร์ที่มีแรงลมสูง สามารถเป่าทะลุถึงขนชั้นในได้ เป็นต้น
Q: เราสามารถใช้ไดร์เป่าผมธรรมดากับสุนัขได้หรือไม่?
A: เราสามารถใช้ไดร์เป่าผมธรรมดากับน้องหมาได้ แต่ทั้งนี้ก็ไม่แนะนำให้ใช้ไดร์เป่าผมธรรมดา ถ้าหลีกเลี่ยงได้จะดีที่สุด เพราะไดร์เป่าผมธรรมดาอาจมีอุณหภูมิและแรงลมที่สูงเกินไปต่อสภาพผิวน้องหมา
Q: เราสามารถเป่าหูสุนัขด้วยไดร์เป่าขนสุนัขได้หรือไม่?
A: เราสามารถใช้ไดร์เป่าขนสุนัขเป่าหูน้องหมาได้ อย่างไรก็ตามผู้เลี้ยงควรใช้ไดร์ในโหมดที่มีแรงลมและอุณหภูมิที่ต่ำที่สุด และห้ามใช้หัวเป่าลงในช่องหูโดยตรง เพราะหูน้องเป็นอวัยวะที่อ่อนโยน ควรเว้นระยะห่างในการเป่าหูน้อง
Q: วิธีทำความสะอาดและรักษาไดร์เป่าขนสุนัขทำอย่างไร?
A: คุณสามารถถอดหัวเป่าออกมาทำความสะอาด และกำจัดเศษขนและฝุ่นที่เกาะติดบนตัวฟิลเตอร์ ทำแบบนี้เป็นประจำ นอกจากนี้ควรอ่านคำแนะนำวิธีการทำความสะอาดบนคู่มือที่แนบมาให้ เพราะแต่ละยี่ห้อมีส่วนประกอบและวิธีทำความสะอาดไม่เหมือนกัน และเก็บในที่แห้งและเย็นหลังการใช้งาน เพื่อยืดอายุการใช้งานของไดร์เป่าขนเป็นเวลานาน

สรุป

ไดร์เป่าขนสุนัขนอกจากจะออกแบบมาเพื่อน้องหมาโดยเฉพาะแล้ว มันยังเป็นมากกว่าเครื่องมือการดูแลรักษาขนที่มากกว่าที่คุณคิด เพราะหากเราเลือกไดร์เป่าขนที่เหมาะสมกับน้องหมาของเรา เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ก็จะช่วยให้น้องมีขนแห้งเร็ว และมีขนสวยสุขภาพดี พร้อมทั้งประหยัดเวลาของผู้เลี้ยงอีกด้วย

จากรีวิวไดร์เป่าขนสุนัขทั้ง 5 ยี่ห้อ NongPets ก็ได้คัดสรร 3 ยี่ห้อที่ดีที่สุดในแต่ละด้าน ดังนี้

สินค้าที่ดีที่สุดโดยรวม
Doghairdryer1
ไดร์เป่าขนสุนัขพลังเทอร์โบ แห้งไว ปลอดภัย
คุ้มค่า ราคาสบายกระเป๋า
Doghairdryer2
ไดร์เป่าขนสุนัขขนาดพกพา ต้านเชื้อแบคทีเรีย
สินค้าคุณภาพพรีเมียม
Doghairdryer5
รถเข็นสุนัข+รถเข็นเด็ก+คาร์ซีท 3in1

หากใครสนใจสินค้าอื่นๆเกี่ยวกับสุนัขเพิ่มเติม NongPets ยังมีบทความรีวิวผลิตภัณฑ์สำหรับสุนัขไม่ว่าจะเป็น…

Leave a Reply

Your email address will not be published.

Show Buttons
Hide Buttons