รีวิว 7 อันดับของเล่นแมวที่ดีที่สุด

เชื่อว่าเหล่าทาสแมวหลายคนต่างก็ชอบซื้อของเล่นใหม่มาให้น้องแมวได้เพลิดเพลินสนุกสนาน แต่ของเล่นแมวไม่ได้มีเพื่อความสนุกเท่านั้น เพราะมันยังช่วยในเรื่องของสุขภาพและการพัฒนาเติบโตของน้องแมวอีกด้วย ในปัจจุบันของเล่นแมวมีให้เลือกเยอะมากมาย NongPets จึงได้คัดสรรของเล่นที่ดีที่สุดจะไม่ทำให้น้องแมวของคุณเบื่ออีกต่อไป

แนะนำของเล่นแมวที่ดีที่สุดจากเรา

หากใครที่อยากได้ตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อของเล่น เราได้คัดเลือก 3 อันดับของเล่นแมวที่ดีที่สุด ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจง่ายมากขึ้น ทั้งในเรื่องของสินค้าโดยรวม, ราคาคุ้มค่า และสินค้าคุณภาพพรีเมียม

รีวิว 7 อันดับของเล่นแมวที่ดีที่สุด

สำหรับทาสแมวที่กำลังมองหาของเล่นแมวที่น่าสนใจให้น้องเล่นอยู่ เราได้คัดสรร 7 ของเล่นแมวที่ดีที่สุดมาให้คุณเลือกที่นี่ 

1. คอนโดแมว (฿699)

คอนโดแมวดีไซน์สวยงาม ทำจากวัสดุไม้ธรรมชาติแข็งแรงทนทานและคลุมด้วยผ้ากำมะหยี่เงาสวย มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมดสามสี สีเทาเข้ม สีเทาอ่อน และสีครีม น้องแมวสามารถเล่นได้ถึง 4-6 ตัว ของเล่นตัวนี้ไม่เพียงแค่ความสนุกสนานเท่านั้น ในตัวคอนโดประกอบไปด้วย 1.เสาเพื่อลับเล็บแมว 2.กล่องนอนสำหรับแมวโต 3.ลูกตุ้มของเล่น 4.เปลสำหรับน้องแมว 

2. KAFBO ของเล่นแมวอัตโนมัติ (฿990)

นวัตกรรมของเล่นแมวสุดล้ำดีไซน์มินิมอล ที่จะช่วยดึงดูดความสนใจจากน้องแมวและยังกระตุ้นให้น้องแมวออกกำลังกายอีกด้วย ตัวเครื่องมีทั้งหมด 3 โหมด 1.โหมดอัจฉริยะ ในระหว่างวันเครื่องจะเปิดเองทุกๆ 4 ชั่วโมงนาน 1 นาที และจะในช่วงกลางคืนจะอยู่ในโหมดสแตนด์บาย 2.โหมดปกติ ขนนกจะออกมาโดยอัตโนมัติจาก 6 รูที่แตกต่างกัน และจะหยุดเล่นหลังจาก 8 นาที 3.โหมดเปลี่ยนขนนก ขนนกจะถูกกางออกอย่างเต็มที่ และเปลี่ยนขนนกได้อย่างง่ายดาย

3. อุโมงค์แมวพับได้ (฿286)

สร้างความสนุกสนานให้น้องแมวด้วยอุโมงค์แมวที่มีช่องทางขนาดใหญ่ถึง 4 อุโมงค์ ซึ่งอุโมงค์ตัวนี้ออกแบบมาเพื่อสัตว์เลี้ยงตัวเล็กอื่นๆด้วยไม่ว่าจะเป็นลูกสุนัขและกระต่าย นอกจากนี้ความพิเศษของตัวอุโมงค์ยังมีลูกบอลกระดิ่งห้อย เพื่อสร้างความสนุกสนานให้กับน้องแมวของคุณ ตัวอุโมงค์ทำจากผ้าโพลีเอสเตอร์ แข็งแรงทนทาน พับเก็บง่าย มาพร้อมกับกระเป๋าพกพาไปไหนก็สะดวก

4. PETKIT ของเล่นแมวติดขนนก (฿490 ราคาลด 50%)

เอาใจน้องแมวเหมียวด้วยของเล่นแมวติดขนนก ตัวเครื่องเป็นรูปทรงโดมมีฟังก์ชันเปิด-ปิดอัตโนมัติหากไม่มีการสัมผัสเป็นเวลา 15 นาที มีรูสำหรับขนนก 6 รูให้แมวฝึกเล่นเกมและมีเสียงหนูจำลองไว้สำหรับการล่าเหยื่อของน้องแมว ช่วยกระตุ้นการออกกำลังกายและยังเพลิดเพลินกับการล่าเหยื่อ

5. KAFBO Catdribball บอลจ๊ะจ๋า (฿490)

ของเล่นแมวลูกบอลสีพาสเทลน่ารักสดใส ใน 1 กล่องประกอบด้วยลูกบอล 3 สีและเสียงที่แตกต่างกัน 1.ชมพู(เสียงนก) 2.เหลือง(เสียงจิ้งหรีด) 3.ฟ้า(เสียงกบ) ตัวลูกบอลทำจากขนแกะนิวซีแลน์ 100% นุ่มสบาย ไม่ระคายเคืองต่อน้องแมว และในลูกบอลยังประกอบไปด้วยแคทนิปเกรด A กลิ่นหอม รับรองว่าเจ้าแมวเหมียวของคุณติดใจแน่นอน!

6. Xiaomi Youpin Furrytail (฿339)

ของเล่นแมวอัจฉริยะที่จะทำให้น้องแมวคุณเพลิดเพลิน ด้วยรูปร่างเล็กน่ารักเหมือนไข่ แต่มีโครงสร้างแข็งแรง สามารถหมุนได้ 360 องศา และมีฟังก์ชันเขย่ากระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของน้องแมว อีกทั้งยังช่วยให้น้องแมวแข็งแรง ปล่อยความกดดันทางอารมณ์ บรรเทาความวิตกกังวลและความเหงา ตัวเครื่องจะเล่นโดยอัตโนมัติและถ้าหากไม่มีการตอบสนองเป็นเวลา 3 นาทีเครื่องจะเปลี่ยนเป็นโหมดแสตนด์บายเพื่อประหยัดแบตเตอรี่

7. เลเซอร์แมวอัตโมัติ (฿390)

เลเซอร์เป็นอีกหนึ่งของเล่นยอดนิยมของน้องแมวเพราะด้วยสัญชาติญาณการไล่ล่าและความขี้สงสัยของน้องแมว เครื่องเลเซอร์อัตโนมัตินี้จะไม่ทำให้น้องแมวของคุณเหงาอีกต่อไป ตัวเครื่องมาพร้อมกับฟังก์ชันหมุนได้ 360 องศาพร้อมการเคลื่อไหวสั่นสะเทือนแบบอัตโนมัติและไม้ขนบนตัวเครื่องเพื่อดึงดูดความสนใจจากน้องแมว ตัวเครื่องจะเข้าสู่หมดแสตนด์บายหากไม่มีการตอบสนองเป็นเวลา 4 นาทีเพื่อประหยัดพลังงาน นอกจากนี้วัสดุของตัวเครื่องยังทนต่อการขีดข่วนและการกัดแทะอีกด้วย

วิธีเลือกซื้อของเล่นแมว

ของเล่นแมวมีให้เลือกมากมายหลายประเภท แต่การจะซื้อของเล่นให้น้องนั้นขึ้นอยู่กับนิสัยและความเป็นอยู่ของน้องด้วย โดยสัญชาตญาณของน้องแมว น้องเป็นสัตว์ที่ชอบไล่ล่าปีนป่ายและขีดข่วน ดังนั้นของเล่นแต่ละประเภทก็เหมาะกับน้องแมวที่มีนิสัยต่างกันออกไป และนี่คือสิ่งคุณควรพิจรณาก่อนซื้อ

วัสดุของเล่นแมว

ในการเลือกวัสดุของของเล่นแมวให้ดูที่วัสดุที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติและปลอดสารพิษ อย่างเช่น ไม้, ผ้าขนแกะ, พืชกัญชง หรือพลาสติกชนิด ABS เป็นต้น วัสดุเหล่านี้ควรมีพื้นผิวสัมผัสที่เรียบหรือนุ่ม เพราะส่วนใหญ่น้องชอบกัดแทะหรือตะปปของเล่น ควรเลือกของเล่นไม่มีมุมแหลมคมที่เป็นอันตรายต่อน้องแมว 

เลือกประเภทของเล่นแมวให้ถูกต้อง

ประเภทของเล่นแมวโดยส่วนใหญ่แบ่งเป็นสองประเภท 1.ของเล่นแบบเล่นเดี่ยวเช่น ลู่วิ่งแมวหรือรางบอลแมว 2.ของเล่นเพื่อในการโต้ตอบกับเจ้าของ เลเซอร์หรือขนนก หากน้องต้องอยู่บ้านคนเดียวเป็นเวลานานก็ควรจะเน้นของเล่นแมวแบบเล่นเดียว นอกจากนี้ยังมีของเล่นแมวที่ออกแบบมาเพื่อการให้รางวัล ในการฝึกฝนเล่นเกมต่างๆเพื่อช่วยในด้านพัฒนาสมองและร่างกาย

คุณสมบัติของของเล่นแมว

ของเล่นแมวไม่ได้ให้แค่ความสนุกเท่านั้น แต่ยังช่วยในเรื่องอื่นๆอีกด้วยเช่น ของเล่นที่ช่วยในเรื่องของสุขภาพช่องปากน้องแมวอย่างตุ๊กตาเคี้ยวรูปสัตว์ต่างๆ, ของเล่นที่ช่วยรักษาสุขภาพเล็บของน้องแมวอย่างเสาลับเล็บแมว และของเล่นที่ช่วยในการลดน้ำหนักอย่างลู่วิ่งแมวเป็นต้น

สภาพร่างกายและการเคลื่อนไหวของน้องแมว

ด้วยสัญชาตญาณนักล่าที่อยู่ในตัวน้องแมว น้องจะชอบเล่นโดยใช้วิธีพื้นฐานจากการไล่ล่า ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งไล่ตาม, การกระโจนใส่และการวิ่งไล่จับสิ่งของต่างๆ เพราะฉะนั้นเราควรคำนึงว่าน้องสามารถหยิบจับของเล่นถนัดมือหรือไม่  พิจารณาความเหมาะสมของเล่นในด้านต่างๆเช่น วัสดุ, รูปร่าง, ขนาด หรือการเคลื่อนไหวเป็นต้น

ของเล่นแมวที่น้องควรหลีกเลี่ยง

ของเล่นที่น้องแมวควระวังโดยหลักๆแล้วคือ

1. พวกเส้นด้ายไหมพรมและสปริงยืดต่างๆ เพราะของเหล่านี้อาจติดอยู่ในทางเดินอาหารของน้องแมวและทำให้น้องแมวเจ็บป่วยได้ 
2. ของเล่นแมวชิ้นเล็กๆที่น้องแมวกลืนเข้าปากได้ 
3. ของเล่นที่มีกลิ่นสารเคมีแรงๆหรือผ้าย้อมสีสันฉูดฉาด ให้ดูที่ฉลากว่าของเล่นมีส่วนผสมของ Phthalates มากเกินไปหรือไม่ เพราะสารเหล่านี้เป็นอันตรายต่อน้องแมว
4. ของเล่นที่มีส่วนผสมของพืช, สมุนไพรและน้ำมันหอมระเหยของคน

คำถามเกี่ยวกับของเล่นแมวที่พบบ่อย

แคทนิปคืออะไร ปลอดภัยต่อน้องแมวหรือไม่?

แคทนิปคือสมุนไพรชนิดหนึ่งในตะกูลเดียวกับมินท์ ซึ่งประกอบด้วยสารเคมีที่เรียกว่า “Nepetalactone” ที่ทำให้น้องแมวเคลิบเคลิ้ม ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้น ยังไม่มีผลรายงานว่าแคทนิปอันตรายต่อแมวและลูกแมว แต่ถ้าน้องแมวกินใบแคทนิปสดๆหรือใบแคทนิปแห้งในปริมาณมาก น้องแมวอาจมีอาการท้องเสียและอ้วกออกมาได้

Phthalates คืออะไร เป็นอันตรายต่อน้องแมวหรือไม่?

Phthalates คืออนุพันธ์ของกรด phthalic acid ที่ใช้ในอุตสาหกรรมพลาสติกโดยส่วนใหญ่ ช่วยในเรื่องของเพิ่มความยืดหยุ่นในพลาสติก ซึ่งของเล่นแมวที่มีส่วนผสมของสารชนิดนี้ต้องได้รับการทดสอบว่ามีปริมาณที่กำหนดหรือไม่ ซึ่งถ้าสารชนิดนี้มีมากเกินไปอาจส่งผลในเรื่องความสามารถในการสืบพันธุ์ลดลง