บอสตันเทอร์เรีย

บอสตันเทอร์เรีย (Boston Terrier) – ข้อมูลสายพันธ์ุ, ลักษณะนิสัย, วิธีการเลี้ยงดู

มารู้จักกับสุนัขอีกหนึ่งสายพันธุ์ ด้วยขนสีลายทักซิโด้อันโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ทำให้น้องได้รับฉายา The American Gentleman หรือ สุภาพบุรุษแห่งอเมริกัน น้องมีนิสัยเป็นมิตรสามารถเข้ากับเด็ก สัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ และแทบจะทุกคนที่น้องพบเจอ น้องมีขนาดตัวไม่ใหญ่สามารถพาไปที่ต่างๆได้ ร่าเริง เป็นสมาชิกที่น่ารัก ไปทำความรู้จักกับน้อง “บอสตันเทอร์เรีย”กับ NongPets กันเถอะ

ประวัติความเป็นมาของบอสตันเทอร์เรีย

อ้างอิงจากสมาคมบอสตันเทอร์เรียในอเมริกา น้องบอสตันนั้นเป็นสายพันธุ์สุนัขของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เกิดและได้รับการพัฒนาพันธุ์ในอเมริกา น้องกำเนิดขึ้นในปี 1800 เมื่อผู้เพาะพันธุ์ในเมืองบอสตัน รัฐแมสซาซูเซตส์ ชื่อ โรเบิร์ต ฮูเปอร์ ได้นำสุนัขพันธุ์อิงลิช บูลด็อก ผสมกับ สุนัขพันธุ์ไวท์อิงลิช เทอร์เรีย ได้ลูกสุนัขออกมาชื่อ Judge

เจ้า Judge ถือเป็นบรรพบุรุษของสุนัขสายพันธุ์บอสตันเทอร์เรีย เมื่อก่อนน้องถูกเรียกว่า Round Heads, Bullet Heads หรือ  Bull Terriers แต่ในปี 1889 น้องได้รับชื่ออย่างเป็นทางการว่า บอสตันเทอร์เรีย ซึ่งเป็นชื่อเมืองที่น้องได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ และได้ขึ้นทะเบียนสายพันธุ์โดย American Kennel Club ในปี 1893 ปัจจุบันบอสตันเทอร์เรียอยู่ในอันดับที่ 21 ของสุนัขที่ได้รับความนิยมมากที่สุดที่จัดอันดับโดยAKC

ลักษณะของบอสตันเทอร์เรีย

ลักษณะทางกายภาพ

  • ความสูง : 38 – 43 เซนติเมตร
  • น้ำหนัก : น้ำหนักตามมาตรฐานแบ่งออกเป็น 3 ระดับคือ 1. ต่ำกว่า 6 กิโลกรัม 2. 6 – 9 กิโลกรัม 3. 9 – 11 กิโลกรัม
  • สายพันธุ์ : สุนัขอเนกประสงค์ (Non Sporting)
  • ขน : ขนสั้น นุ่ม    
  • สีขน :  มี 3 สี คือ สีขาวและสีดำ (สีลายทักซิโด้), สีขาวและลายน้ำตาล, สีน้ำตาลสิงโตทะเลและสีขาว
  • ลักษณะเด่น: หน้ากลม สั้น หางม้วน 
  • ช่วงชีวิต: 11 -13 ปี

นิสัยและพฤติกรรมทั่วไป

น้องบอสตันเทอร์เรียมีนิสัยกระตือรือร้นที่ได้มาจากบรรพบุรุษสายพันธุ์เทอร์เรียผสมกับความสุภาพและมีไหวพริบจากสายพันธุ์บูลด็อก นอกจากนี้น้องยังเป็นสุนัขอารมณ์ดีขี้เล่นและชอบอยู่ท่ามกลางผู้คนเยอะๆ น้องฉลาด ชอบที่จะได้รับความรักและความสนใจจากผู้คน น้องสามารถสร้างความสนุกสนานให้ตัวเองได้ โดยเฉพาะถ้ามีของเล่นที่ชอบอยู่ด้วย แต่ถึงยังไงน้องก็ชอบที่จะได้เล่นกับเจ้าของมากกว่าอยู่ดีนะ 

น้องบางตัวก็มีพลังเยอะ คึกคัก แต่ไม่ใช่นิสัยทั่วไปของสุนัขพันธุ์นี้  น้องบอสตันเทอร์เรียที่มีสายพันธุ์ที่ดีและได้รับการขัดเกลาทางสังคมจะเป็นสุนัขที่เป็นมิตรและขี้เล่น จะไม่เรียกร้องเยอะ เอาใจยาก น้องจะปรับตัวให้เข้ากับตารางเวลาของเรา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะปล่อยน้องให้อยู่ตัวเดียวทั้งวันได้ เพราะน้องต้องการความรักและการเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว

วิธีการเลี้ยงและดูแลบอสตันเทอร์เรีย

  • น้องบอสตันเทอร์เรียมีขนที่นุ่มและสั้น ซึ่งไม่หลุดร่วงเยอะและง่ายต่อการดูแล แปรงขนให้น้องทุกสัปดาห์ด้วยถุงมือแปรงขนเพื่อกำจัดเส้นขนที่ตายแล้วและทำให้ผิวหนังมีสุขภาพดี
  • ตัวน้องไม่มีกลิ่นและไม่ต้องอาบน้ำบ่อยเกินไป เพียงครั้งละ 2 – 3 ต่อเดือนก็เพียงพอแล้ว ตัดเล็บให้น้องทุกๆ 2 – 3 สัปดาห์ เพื่อป้องกันเล็บไปเกี่ยวสิ่งของและเกิดการฉีกขาด
  • ควรเริ่มฝึกน้องตั้งแต่ตอนเป็นลูกสุนัข ถึงแม้น้องจะมีอายุเพียง 8 สัปดาห์แต่น้องก็สามารถซึมซับสิ่งที่เราสอนได้ทั้งหมด อย่ารอให้น้องอายุถึง 6 เดือน แล้วค่อยเริ่มการฝึกเพราะเราอาจจะต้องรับมือกับน้องหมาหัวดื้อ หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือนำน้องไปที่โรงเรียนฝึกสุนัขเมื่อน้องมีอายุได้ 10 – 12 สัปดาห์
  • เพราะน้องเป็นสุนัขหน้าสั้นและมักมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตา ดังนั้นผู้เลี้ยงหลายๆคนควรที่จะต้องป้องกันดวงตาของน้องจากแสงแดดที่จ้าเกินไป, ลม, ฝุ่น และของมีคม อาจจะต้องพกน้ำยาหยอดตาเพื่อชำระล้างสิ่งระคายเคืองในดวงตาและช่วยให้ตาชุ่มชื้น 
  • อาหารของบอสตันเทอร์เรีย

น้องค่อนข้างกินเยอะ จึงต้องคอยดูแลเรื่องสัดส่วนและปริมาณอาหาร ไม่อย่างนั้นอาจเกิดปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวหรือปัญหาสุขภาพอื่นๆได้ การให้อาหารบอสตันเทอร์เรียแต่ละวัยมีดังนี้

วัยลูกสุนัข : ลูกสุนัขไม่ควรถูกแยกจากแม่ก่อนที่น้องจะอายุ 8 สัปดาห์ น้ำนมของแม่หมานั้นอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นที่จะทำให้น้องแข็งแรงและสุขภาพดี

อายุ 3 – 4 สัปดาห์ : ในช่วงวัยนี้เริ่มให้น้องหัดกินอาหารเหลวได้

อายุ 6 – 8 สัปดาห์ : น้องในวัยนี้ต้องการสารอาหารที่หลากหลายมากกว่าสุนัขโตและต้องกินบ่อยๆ เราควรให้อาหารน้องอย่างน้อยวันละ 3 – 4 ครั้งต่อวัน น้องต้องการโปรตีน, แคลเซียม และเลือกอาหารที่มีเนื้อสัตว์อยู่อันดับแรกๆในตารางส่วนผสม หากไม่มีก็ควรเปลี่ยนไปเลือกอาหารที่มีคุณภาพดีกว่านี้ให้น้อง

หลังจาก 8 สัปดาห์ : หลังจากที่น้องมีอายุได้ 8 สัปดาห์ก็สามารถให้อาหารน้อง 2 ครั้งต่อวันได้แล้ว

อายุ 3 – 6 เดือน : น้องจะเริ่มฟันขึ้นและไม่ค่อยอยากอาหาร แต่เราควรให้อาหารน้องตามเดิม 2 ครั้งต่อวัน

อายุ 6 เดือน – 1 ปี : ในช่วงวัยนี้น้องจะดูโตขึ้น แต่น้องก็ยังเด็กและต้องการอาหารสำหรับลูกสุนัขอยู่  เราสามารถไปปรึกษาสัตวแพทย์ได้ว่าเมื่อไหร่ที่เราควรเปลี่ยนไปให้อาหารสำหรับสุนัขโต และเมื่อเปลี่ยนให้น้องกินอาหารสำหรับสุนัขโตแล้วก็ต้องอ่านฉลากให้แน่ใจว่าส่วนผสมอันดับแรกคือเนื้อสัตว์

อายุ 8 ถึง  9 เดือน : ในช่วงวัยนี้เราสามารถให้อาหารน้อง 1 มื้อต่อวันได้แล้ว

**เคล็ดลับพื้นฐานของการให้อาหารที่ดี**

  • เมื่อเราเจออาหารที่คุณภาพดีก็สามารถให้น้องกินอาหารนั้นได้แบบต่อเนื่อง ระบบย่อยอาหารของสุนัขไม่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนอาหารได้ดีเท่าไหร่นัก การเปลี่ยนอาหารอาจจะก่อให้เกิดอาการท้องเสียและปวดท้องได้ ถ้าเราอยากเปลี่ยนอาหารให้สุนัขต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ใส่อาหารใหม่รวมกับอาหารเก่าทีละน้อยจนกระทั่งอาหารเก่าลดลงและถูกแทนที่ด้วยอาหารใหม่
  • เราควรจัดเวลาการให้อาหารสำหรับลูกสุนัข โดยให้น้องกินอาหารเวลาเดิมทุกวันและควรมีน้ำสะอาดให้น้องกินเสมอ และคอยดูแลความสะอาดของถ้วยอาหารและน้ำเป็นประจำ
  • น้องบอสตันเทอร์เรียในวัยโตควรได้รับอาหารแห้ง 1 ถึง 2 ¼ ถ้วย ทุกวัน แต่อย่างไรก็ตามสามารถดูคำแนะนำบนผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้

สุขภาพของบอสตันเทอร์เรีย

เจ้าบูลด็อกที่เป็นบรรพบุรุษของน้องบอสตันเทอร์เรียเป็นผู้ที่ทำให้น้องมีรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่น แต่ก็เป็นผู้ที่นำปัญหาสุขภาพอย่างร้ายแรงมาด้วยเช่นกัน น้องบอสตันเทอร์เรียมีแนวโน้มจะเป็นโรคที่เกี่ยวกับโครงสร้างของร่างกาย, หัว และ ใบหน้า โรคที่มักเกิดกับน้องบ่อยๆมีดังนี้

  1. ปัญหาเกี่ยวกับดวงตา เช่น โรคต้อกระจก, แผลที่กระจกตา และ โรคต้อหินในสุนัข : Eye Problems
  2. ปัญหาการหายใจในสุนัขพันธุ์หน้าสั้น : Brachycephaly
  3. ปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลังและข้อต่อ เช่น โรคสะบ้าเคลื่อน : Spine and Joint Problems
  4. ภาวะผิดปกติที่เกิดการบิดม้วนของหาง : Screw Tails

เกบอสตันเทอร์เรียกับเด็กและสัตว์เลี้ยงอื่นๆ

น้องบอสตันเทอร์เรียตันรักเด็ก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะปล่อยให้เด็กๆเล่นแรงๆกับน้องหมาได้ ผู้ใหญ่จะต้องคอยดูแลและสอนเด็กให้เข้าหาสุนัขอย่างถูกวิธี นอกจากนี้ น้องบอสตันเทอร์เรียสามารถเข้ากับสัตว์ตัวอื่นๆได้ ถ้าเรามีแมวอยู่ในบ้าน ไม่แปลกที่จะเห็นน้องนอนหลับอยู่ใกล้ๆกับน้องแมว หรือถ้าเราต้องทำงานทั้งวัน การเลี้ยงน้องบอสตันเทอร์เรีย 2 ตัวให้อยู่เป็นเพื่อนกันก็สามารถทำได้ 

Leave a Reply

Your email address will not be published.

Show Buttons
Hide Buttons