รีวิว 7 อันดับอาหารแมวแบบเปียกที่ดีที่สุด

ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันอาหารแมวที่วางขายตามท้องตลาดมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกสรร แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่าอาหารแมวที่ดีควรอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายด้วยนะ ยิ่งบ้านไหนที่มีน้องแมวกินยากหรือมีปัญหาเรื่องการเคี้ยวอาหาร การเลือกอาหารแมวที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มและอัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์ครบครันเฉกเช่น อาหารเปียกแมว ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ วันนี้ NongPets จึงได้รวบรวมอาหารแมวแบบเปียก รสชาติหอมอร่อยมาให้ทุกคนได้เลือกซื้อกัน 

แนะนำของอาหารแมวแบบเปียกที่ดีที่สุดจากเรา

หากใครที่อยากได้ตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อของเล่น เราได้คัดเลือก 3 อันดับอาหารแมวแบบเปียกที่ดีที่สุด ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจง่ายมากขึ้น ทั้งในเรื่องของสินค้าโดยรวม, ราคาคุ้มค่า และสินค้ามีความหลากหลายที่สุด

รีวิว 7 อันดับอาหารแมวแบบเปียกที่ดีที่สุด

สำหรับทาสแมวคนไหนที่กำลังตัดสินใจในการเลือกซื้ออาหารเปียกแมวอยู่ เราได้คัดสรร 7 อันดับอาหารเปียกแมวที่ดีที่สุดมาให้คุณเลือกที่นี่

1. Bellotta (เบลลอตต้า) อาหารแมวเปียก (฿10)

อาหารเปียกแมว Bellotta มาพร้อมกับรสชาติที่มีความหลากหลาย อัดแน่นไปด้วยเนื้อปลาแซลมอนแบบเต็มซอง อีกทั้งยังอุดมไปด้วยทอรีนซึ่งเป็นกรดอะมิโนสำคัญที่ช่วยในการบำรุงสายตา สมอง หัวใจ ระบบย่อยอาหาร และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับน้องแมวได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญอาหารแมวสูตรนี้ยังไม่ใส่วัตถุกันเสียเข้ามาในซองด้วยนะ

2. Nekko​ (เน็กโกะ) ​อาหารแมวเปียก​  (฿11)

จุดเด่นของอาหารเปียกแมว Nekko สูตรนี้คือมีส่วนประกอบเนื้อปลาแท้ 100% อัดแน่นอยู่ในซองเดียว เสริมด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอย่างวิตามินอีและพรีไบโอติก ที่มีส่วนช่วยให้น้องแมวขับถ่ายเป็นเวลา อีกทั้งยังมีฟลุคโตโอลิโทแซคคาไรด์รวมอยู่ด้วย จึงช่วยป้องกันการเกิดก้อนขนในแมวได้เป็นอย่างดี

3. Me-O delite (มีโอ ดีไลท์) อาหารแมวเปียก (฿14)

ด้วยความพิเศษที่ซุกซ่อนอยู่ในอาหารเปียกแมวสูตร Me-O delite นี้มาพร้อมกับเนื้อปลาทูน่าแบบเยลลี่ เคลือบผิวด้วยน้ำซอสฉ่ำๆ หอมอร่อย ซึ่งมีให้เลือก 2 สูตรด้วยกันนั้นก็คือ สูตรสำหรับลูกแมวและแมวโต โดยในส่วนผสมของอาหารเปียกสูตรนี้อุดมไปด้วยวิตามินซี ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน อีกทั้งยังมีทอรีน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนสำคัญในการบำรุงสายตา เสริมด้วยสังกะสีและไบโอติน ช่วยบำรุงเส้นขนและผิวหนังของน้องแมวให้ดูสุขภาพดี

4. Nekko (เน็กโกะ) อาหารแมวเปียก สูตรลูกแมว (฿13)

อาหารเปียกแมว Nekko สูตรลูกแมว มีเนื้อสัมผัสแบบมูสเนื้อเนียนนุ่ม ช่วยให้ลูกแมวกินอาหารได้ง่ายขึ้น มาพร้อมกับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของลูกแมว มีทั้งโอเมก้า 3 แคลเซียม และทอรีน เสริมด้วยแร่ธาตุ วิตามินอี ฟลุคโตโอลิโทแซคคาไรด์ และพรีไบโอติก ที่ช่วยดูแลระบบทางเดินอาหารและป้องกันการเกิดโรคก้อนขนในแมว 

5. Royal Canin (โรยัลคานิน) อาหารแมวเปียก (฿22)

สำหรับบ้านไหนที่น้องแมวสุขภาพไม่แข็งแรงและอยากบำรุงร่างกายให้กับน้องแมว ลองเลือกอาหารแมวเปียก Royal Canin ไปให้น้องแมวที่บ้านลองกันดู โดยอาหารแมวแบรนด์ Royal Canin มีถึง 8 สูตรให้คุณเลือก ไม่ว่าจะเป็นสูตรควบคุมน้ำหนัก,สูตรแมวแก่ , สูตรแมวโตทั่วไป , สูตรลูกแมว , สูตรป้องกันนิ่ว, สูตรบำรุงขนและผิวหนัง , สูตรป้องกันก้อนขน และสูตรแมวทำหมัน ที่สำคัญอาหารแมวแต่ละสูตรยังอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ที่ช่วยเสริมสร้างโภชนาการให้กับน้องแมวอีกด้วยนะ

6. Regalos (รีกาลอส) อาหารแมวเปียก (฿12)

อาหารเปียกแมว Regalos เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับน้องแมวทุกช่วงวัย วัตถุดิบผลิตจากเนื้อปลาทูน่าแท้ 100% อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ที่มีส่วนช่วยบำรุงผิวหนังและเส้นขน เสริมด้วยน้ำมันปลาและทอรีน ช่วยบำรุงหัวใจและสายตา ที่สำคัญอาหารแมวสูตรนี้ไม่ใส่วัตถุกันเสียและไม่เติมเกลือลงไปในวัตถุดิบด้วย สบายใจหายห่วงได้เลย

7. Pet8 อาหารเปียกแมวเกรดพรีเมียม (฿11)

Pet8 เป็นอาหารเปียกแมวเนื้อเยลลี่ มีให้เลือกถึง 4 รสชาติด้วยกัน โดยแต่ละสูตรผลิตมาจากเนื้อปลาทูน่าเกรดพรีเมียม มีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกายให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาทางการด้านสมองของน้องแมว รวมถึงช่วยในการบำรุงเส้นขนและผิวหนังให้แข็งแรงขึ้นด้วย ที่สำคัญอาหารแมวสูตรนี้ยังมีฟลุคโตโอลิโทแซคคาไรด์ ที่ช่วยลดการก่อตัวของก้อนขนได้อย่างดีเยี่ยม 

วิธีเลือกซื้ออาหารแมวแบบเปียก

สำหรับทาสแมวมือใหม่ที่ไม่เคยซื้ออาหารแมวมาก่อน อาจเป็นเรื่องยากอยู่ไม่น้อย เพราะการเลือกซื้ออาหารให้น้องแมว ไม่เพียงแต่ต้องคำนึงถึงช่วงวัย แต่เรายังต้องดูปริมาณสารอาหารและความชอบของน้องแมวร่วมด้วย โดยเราสามารถพิจารณาข้อควรซื้อได้ดังนี้

ปริมาณโปรตีนสูง

โดยธรรมชาติแล้วน้องแมวถือเป็นสัตว์กินเนื้อ ซึ่งแหล่งโปรตีนส่วนใหญ่มาจากเนื้อปลาและเนื้อไก่เป็นหลัก ดังนั้นก่อนจะเลือกซื้ออาหารแมวแบบเปียก อย่าลืมอ่านส่วนผสมของโปรตีนในฉลากให้ชัดเจนด้วย ว่ามีปริมาณที่เหมาะสมกับพลังงานที่น้องแมวควรได้รับในแต่ละวันหรือไม่

ปริมาณความชื้นไม่ควรต่ำเกินไป

ตามหลักแล้วอาหารแมวแบบเปียก ควรมีปริมาณความชื้นอยู่ระหว่าง 60-85% จะดีที่สุด เพราะหากเราเลือกอาหารแมวที่มีปริมาณความชื้นต่ำเกินไป อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคไตและโรคนิ่ว

ช่วงวัยของน้องแมว

ในความจริงแล้วน้องแมวแต่ละวัยต่างมีความต้องการทางสารอาหารที่ไม่เหมือนกัน ก่อนที่เราจะเลือกซื้ออาหารแมว อย่าลืมสังเกตช่วงอายุบนฉลากให้ชัดเจนด้วยนะ

สุขภาพของน้องแมว

หากบ้านไหนที่น้องแมวมีปัญหาเรื่องสุขภาพ แนะนำว่าควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนเลือกซื้ออาหารแมวกันด้วยนะ  เนื่องจากในปัจจุบันอาหารแมวมีสูตรเฉพาะให้เลือกที่แตกต่างกันออกไป เช่น น้องแมวที่มีปัญหาเรื่องโรคอ้วน ก็ควรเลือกเป็นสูตรควบคุมน้ำหนักแทน เพราะฉะนั้นแล้วหากใครไม่อยากให้น้องแมวได้รับความเสี่ยงจากโรคที่เป็นอยู่ ก็อย่าลืมเลือกอาหารแมวให้ตรงตามสุขภาพของน้องแมวกันด้วย

ความชอบอาหารของน้องแมว

รู้ไหมว่าอาหารเปียกแมวไม่ได้มีเพียงแค่เนื้อสัมผัสเดียวเท่านั้นนะ เพราะสมัยนี้เค้ามีเนื้อสัมผัสให้เลือกหลากหลายแบบด้วยกัน เช่น แบบเยลลี่ แบบชิ้นเนื้อละเอียด แบบชิ้นเนื้อหยาบ และแบบผสมน้ำเกรวี่ สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าน้องแมวชอบแบบไหน ขอแนะนำให้ลองเลือกซื้ออาหารเปียกแมวไปหลากหลายแบบ แล้วลองสังเกตดูว่าน้องแมวที่บ้านชอบเนื้อสัมผัสแบบไหนเป็นพิเศษ

คำถามเกี่ยวกับอาหารแมวแบบเปียกที่พบบ่อย

ฉันสามารถให้แค่อาหารเปียกกับน้องแมวได้ไหม?

จริงๆ แล้วทั้งอาหารเปียกและอาหารเม็ดต่างอัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์ที่ครบครัน แต่การให้น้องแมวทานอาหารเปียกเพียงอย่างเดียว อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากตามมาได้ ทางที่ดีควรให้น้องแมวกินสลับหรือผสมอาหารเม็ดเข้าไปด้วย ก็จะช่วยให้น้องแมวมีสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้นได้เช่นกัน

ลูกแมวกินอาหารเปียกได้ไหม?

หากบ้านไหนที่มีลูกแมววัยแรกเกิด เราสามารถเริ่มให้อาหารเปียกกับน้องแมวได้ตั้งแต่ 4 สัปดาห์เป็นต้นไป แต่แนะนำว่าควรแบ่งให้น้องแมวกินในปริมาณน้อยๆ แต่เน้นให้กินหลายมื้อจะดีกว่า นอกจากนี้เราควรเลือกอาหารเปียกสำหรับลูกแมวเท่านั้นนะ เพราะสูตรสำหรับลูกแมวจะมีสารอาหารที่สูงกว่าน้องแมวโตเต็มวัยถึง 3 เท่าเลย