สายพันธุ์แมวสำหรับคนเป็นภูมิแพ้

7 สายพันธุ์แมวสำหรับคนเป็นภูมิแพ้ – ข้อมูลสายพันธุ์และลักษณะนิสัย

สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องโรคภูมิแพ้ การเลี้ยงสัตว์มีขนอย่างน้องแมว ก็อาจกลายเป็นปัญหาให้กับคุณไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะเมื่อเราได้สูดดมขนของน้องแมวเข้าไป ย่อมส่งผลให้อาการของโรคภูมิแพ้กำเริบได้ แต่ถึงอย่างไรทาสแมวอย่างเราๆก็ไม่ยอมแพ้กับความรักที่ยิ่งใหญ่ที่มีให้ต่อน้องแมว ดังนั้นในวันนี้ NongPets จึงได้สรรหาน้องแมวสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่สามารถอยู่ร่วมกับคุณได้โดยไม่มีปัญหา จะมีสายพันธุ์อะไรบ้างนั้น ไปดูกัน!

1. Siamese (วิเชียรมาศ)

Siamese hypo
ข้อมูลสายพันธุ์แมว
  • น้ำหนัก: 4 – 6 กก. (เพศชาย) / 2.5 – 4.5 กก. (เพศหญิง)
  • ส่วนสูง: 29 – 31 ซม. (เพศชาย) / 27 – 31 กก. (เพศหญิง)
  • ช่วงชีวิต: 15 – 20 ปี
  • ลักษณะนิสัย: ช่างพูด , ชอบเข้าสังคม , ขี้อ้อน , รักสงบ , ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ
  • การดูแลขน: ควรแปรงขนให้ครั้งละ 1 อาทิตย์ และอาบน้ำให้น้องเดือนละ 1 ครั้ง

วิเชียรมาศ ถือเป็นน้องแมวที่มีรูปลักษณ์สวยงามและมีขนที่สั้น น้องจึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องขนหลุดร่วงสักเท่าไหร่นัก แถมเส้นขนของน้องยังสามารถเปลี่ยนสีได้ตามอุณภูมิที่อยู่อาศัยอีกด้วย ซึ่งถ้าน้องอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความเย็นจัด ขนของน้องก็จะเปลี่ยนเป็นสีที่เข้มขึ้น ในทางกลับกัน หากน้องอาศัยอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อน ขนของน้องก็จะกลายเป็นสีอ่อนลง ส่วนนิสัยของน้องแมวสายพันธุ์นี้ จะเป็นแมวช่างพูด ชอบเข้าสังคม ขี้อ้อน รักสงบ และชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิเชียรมาศ >>

2. Balinese (แมวพันธุ์บาหลี)

Balinese cat hypo
ข้อมูลสายพันธุ์แมว
  • น้ำหนัก: < 5 กก.
  • ส่วนสูง: 20 – 28 ซม.
  • ช่วงชีวิต: 18 – 22 ปี
  • ลักษณะนิสัย: ขี้เล่น , ไม่ค่อยส่งเสียงดัง , ติดเจ้าของ , อ่อนไหวง่าย
  • การดูแลขน: ควรอาบน้ำให้อย่างน้อยเดือนละ 1 – 2 ครั้ง และไม่จำเป็นต้องดูแลขนมาก

ถ้าหากให้พูดถึงน้องแมวอีกหนึ่งสายพันธุ์ ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับน้องแมววิเชียร์มาศ นั่นก็คือน้องแมวพันธุ์บาหลี เพียงแต่น้องจะมีขนที่ยาวและนุ่มเนียนกว่า แม้ว่าน้องจะมีขนที่ยาว แต่ในเรื่องของการดูแลขนนั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากเลย เนื่องจากน้องจะเลียขนตัวเองอยู่เสมอ จึงหมดห่วงเรื่องความสกปรกไปได้เลย แต่ถึงแม้ว่าน้องจะเป็นแมวที่รักสะอาด แต่เราก็ควรอาบน้ำให้น้องแมวอย่างน้อยเดือนละ 1 – 2 ครั้ง เพื่อเป็นการชำระล้างสิ่งสกปรกที่ซ่อนอยู่ในขนให้น้องด้วย

3. Javanese (จาวานีส)

ข้อมูลสายพันธุ์แมว
  • น้ำหนัก: 3.6 – 5.5 กก. (เพศชาย) / < 3.6 ( เพศหญิง) 
  • ส่วนสูง: 23 – 30 ซม.
  • ช่วงชีวิต: 8 – 12 ปี
  • ลักษณะนิสัย: ชอบปีนป่ายขึ้นที่สูง , รักสงบ , เรียบร้อย , สุขุม , มีความอดทนสูง
  • การดูแลขน:  ควรอาบน้ำให้อย่างน้อยเดือนละ 1 – 2 ครั้ง และไม่จำเป็นต้องดูแลขนมาก

สำหรับน้องแมจาวานีส ก็เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่คนเป็นโรคภูมิแพ้สามารถเลี้ยงได้ เนื่องจากน้องเป็นแมวที่มีขนสั้น และหลุดร่วงน้อย ขณะเดียวกันน้องก็เป็นแมวที่มีความกระตือรือร้น และมีพละกำลังสูงมาก ๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วน้องจะชอบปีนป่ายขึ้นที่สูง และชอบทำกิจกรรมโลดโผนต่าง ๆ ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงต้องหาพื้นที่เตรียมไว้ให้น้องด้วย ส่วนนิสัยของน้องแมวสายพันธุ์นี้ จะเป็นแมวที่รักความสงบ เรียบร้อย สุขุม และมีความอดทนสูง น้องจึงสามารถเข้าได้ทั้งกับทุกคนในบ้าน รวมถึงเด็กและสุนัข

4. Sphynx (สฟิงซ์)

Sphynx hypo
ข้อมูลสายพันธุ์แมว
  • น้ำหนัก: 3.6 – 5.5 กก.
  • ส่วนสูง: 20 – 25.4 ซม.
  • ช่วงชีวิต: 15 – 20 ปี
  • ลักษณะนิสัย: เป็นมิตร , ซุกซน , ขี้เล่น , คุยเก่ง , ขี้อ้อน , ชอบเข้าสังคมมาก ๆ 
  • การดูแลขน: ควรอาบน้ำและถูผิวให้น้องเป็นประจำทุกสัปดาห์เพื่อขจัดไขมันบนผิวหนัง และใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน

ถ้าให้พูดถึงน้องแมวไร้ขน และสามารถอยู่ร่วมกับคนเป็นโรคภูมิแพ้ได้ แน่นอนว่าคงเป็นแมวพันธุ์ไหนไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่สายพันธุ์สฟิงซ์ แม้ว่ามองภายนอก น้องสฟิงซ์จะเป็นแมวที่ไม่มีขน แต่จริง ๆ แล้วบริเวณลำตัวของน้องจะมีขนนุ่ม ๆ ปกคลุมอยู่ทั่วร่างกาย แต่ด้วยความที่น้องไม่มีขนหนาเหมือนกับน้องแมวสายพันธุ์อื่น ๆ น้องจึงไม่สามารถอยู่ในที่หนาวได้ และน้องมีผิวหนังที่บอบบาง เราจึงจำเป็นต้องอาบน้ำให้น้องเป็นประจำทุกสัปดาห์เพื่อขจัดไขมันบนผิวหนังออกไป และใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนังสูตรอ่อนโยน

5. Siberian (แมวไซบีเรียน)

Siberian hypo
ข้อมูลสายพันธุ์แมว
  • น้ำหนัก: 7.25 กก. (เพศชาย) / 5 กก. (เพศหญิง)
  • ส่วนสูง: 25.4  – 30.5 ซม.
  • ช่วงชีวิต: 11 – 15 ปี
  • ลักษณะนิสัย: ร่าเริง , ฉลาด , ขี้อ้อน , เป็นมิตรได้ทั้งเด็กและสุนัข
  • การดูแลขน: ควรอาบน้ำเดือนละ 1 ครั้ง และควรแปรงขนเป็นประจำทุกวัน

แม้ว่าน้องแมวพันธุ์ไซบีเรียน จะเป็นน้องแมวที่มีขนฟู และหนาถึงสองชั้น แต่น้องกลับสามารถอยู่ร่วมกับคนที่เป็นภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดี และด้วยรูปลักษณ์ที่ดูสง่างามของน้อง น้องจึงเป็นแมวที่ได้รับความนิยมจากคนชนชั้นสูง และชนชั้นทั่วไปจำนวนมาก แต่ถ้าใครที่เลี้ยงน้องไว้ในบ้านที่มีสภาพอากาศร้อน หรืออบอ้าวเป็นพิเศษ ขนของน้องก็จะไม่ค่อยยาว และฟูฟ่องสักเท่าไหร่นัก แต่ถ้าน้องได้อยู่ในสถานที่ที่มีอากาศหนาวเหน็บ ขนของน้องก็จะมีความยาว และหนาขึ้นนั่นเอง

6. Ocicat (อ็อกซี่แคท)

ข้อมูลสายพันธุ์แมว
  • น้ำหนัก: 2.7 – 7 กก.
  • ส่วนสูง: 23 – 30 ซม.
  • ช่วงชีวิต: 15 – 18 ปี
  • ลักษณะนิสัย: เฉลียวฉลาด , มั่นใจ  , เป็นมิตร , ขี้เล่น , บ้าพลัง , ซุกซน , ร่าเริง , เข้ากับคนได้ง่าย ไม่ชอบอยู่นิ่ง , สอนง่าย 
  • การดูแลขน: ควรอาบน้ำเดือนละ 1 ครั้ง และไม่จำเป็นต้องดูแลขนมาก

อ็อกซี่แคท เป็นน้องแมวที่มีลายจุดเด่นชัด และมีขนที่สั้นเหมือนกันผ้าซาติน และไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องขนหลุดร่วง น้องจึงสามารถอยู่อาศัยร่วมกับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าน้องจะมีหน้าตาดุร้ายสมกับที่เป็นแมวป่า แต่ถึงอย่างไร น้องก็เป็นแมวที่เฉลียวฉลาด มั่นใจ เป็นมิตร ขี้เล่น บ้าพลัง ซุกซน ร่าเริง เข้ากับคนได้ง่าย ไม่ชอบอยู่นิ่ง และสอนง่าย ซึ่งถ้าหากใครที่ต้องการเลี้ยงน้องแต่ไม่ค่อยมีเวลาให้ ก็ควรเลี้ยงน้องแมวพันธุ์นี้ไว้เป็นคู่จะดีที่สุด

7. Russian Blue (รัสเซียน บลู)

Russian blue cat hypo
ข้อมูลสายพันธุ์แมว
  • น้ำหนัก: 3 – 6 กก.
  • ส่วนสูง: 20 – 25 ซม.
  • ช่วงชีวิต: 10 – 20 ปี
  • ลักษณะนิสัย: ขี้เล่น เบื่อง่าย แสนรู้ สอนง่าย รักสงบ ขี้ระแวง ไม่ชอบหยุดนิ่ง และมีพลังงานสูงมาก
  • การดูแลขน: ไม่จำเป็นต้องดูแลขนมาก แต่แปรงขนให้น้องเป็นประจำ

สำหรับน้องแมวพันธุ์รัสเซียน บลู เป็นน้องแมวสายพันธุ์ที่มีขนสีสวย และส่องแสงประกายวิวับ น้องเป็นแมวที่มีขนหนา น้องจึงผลัดขนมากกว่าแมวที่กล่าวมาข้างต้น น้องจึงเหมาะกับคนที่เป็นภูมิแพ้ไม่รุนแรง ส่วนนิสัยของน้องแมวสายพันธุ์นี้ จะเป็นน้องแมวที่มีความขี้เล่น เบื่อง่าย แสนรู้ สอนง่าย รักสงบ ขี้ระแวง และมีพลังงานสูงมาก แต่ด้วยความที่น้องเป็นแมว ที่มีสัญชาตญาณนักล่าอยู่ในสายเลือด น้องจึงไม่ชอบหยุดนิ่ง ส่วนใหญ่แล้ว กิจกรรมยามว่างของน้องคือการกระโดด ปีนป่าย และวิ่งไล่จับสัตว์เล็ก ๆ

สาเหตุของโรคภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นจากแมว

ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีแมวสายพันธุ์ไหนที่ปลอดภูมิแพ้ 100% ส่วนใหญ่แมวที่คนเป็นภูมิแพ้สามารถเลี้ยงได้ จะเป็นแมวที่มีการผลัดขนน้อย ซึ่งจะมีโอกาสน้อยในการก่อโรคภูมิแพ้ซะมากกว่า และสาเหตุของภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นจากแมวนี้ เกิดมากจากในร่างกายแมวจะผลิตโปรตีนชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Fel d 1 ซึ่งเป็นสารก่อภูมิแพ้หลักในตัวแมว โปรตีนชนิดนี้ส่วนใหญ่จะผลิตในน้ำลายของแมว เมื่อน้องแมวมีการเลียขน โปรตีนตัวนี้จะแพร่กระจายไปทั่วขน หรือมีการแพร่จากสะเก็ดบนผิวหนัง ดังนั้นตัวก่อโรคภูมิแพ้นี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากการสัมผัสแมวโดยตรง แต่เกิดจากขนของแมวที่ถูกส่งผ่านโปรตีน Fel d 1 มาจากน้ำลาย

สายพันธุ์แมวที่คนเป็นภูมิแพ้ควรหลีกเลี่ยง

สายพันธุ์แมวที่ไม่เหมาะกับคนเป็นภูมิแพ้จะเป็นแมวที่มีการผลัดขนมาก ซึ่งโอกาสการสัมผัสกับตัวก่อภูมิแพ้ที่อยู่ในขนจะมีมากกว่า ซึ่งมีแมวดังต่อไปนี้

Leave a Reply

Your email address will not be published.

Show Buttons
Hide Buttons