อาหารสุนัขก็ปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตและเจริญเติบโตของน้องหมา เพราะน้องก็เหมือนกับคนเราที่ต้องการอาหารที่ดี มีประโยชน์เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและสามารถทำกิจกรรมในแต่ละวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่รู้หรือไม่ว่า “อาหารสุนัข” ที่มีอยู่มากมายในท้องตลาดนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร มีอะไรบ้าง
วันนี้ Nongpets จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับอาหารสุนัขมาให้ทุกคนได้อ่านกัน รับรองได้เลยว่าจะทำให้คุณรู้จักอาหารสุนัขแบบต่างๆมากยิ่งขึ้นและสามารถตัดสินใจเลือกอาหารให้น้องหมาที่บ้านได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้เราจะมาแนะนำ 5 อันดับอาหารสุนัขคุณภาพสูง เพื่อมั่นใจได้ว่าเราได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเจ้าตูบของเรา
สินค้าแนะนำจากเรา
![]() | อาหารเม็ด Royal Canin Mini Adult คลิ๊กสั่งซื้อที่ Lazada คลิ๊กสั่งซื้อที่ Shopee |
![]() | อาหารกระป๋อง Mckelly Cans Dog คลิ๊กสั่งซื้อที่ Lazada คลิ๊กสั่งซื้อที่ Shopee |
![]() | อาหารฟรีซดราย Kelly & Co’s คลิ๊กสั่งซื้อที่ Lazada คลิ๊กสั่งซื้อที่ Shopee |
ประเภทของอาหารสุนัข
1. อาหารเม็ด (Kibble)
อาหารประเภทนี้เป็นที่นิยมมากที่สุด ในอาหารเม็ดประกอบไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อน้องหมาอย่างครบถ้วน อาหารเม็ดแต่ละยี่ห้อก็มีหลากหลายสูตรและหลากหลายกระบวนการผลิตที่แตกต่างกันไป อาหารเม็ดถือเป็นอาหารชนิดแรกที่ถูกผลิตขึ้นมาวางขายและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคนเลี้ยงสุนัข
ชนิดของอาหารเม็ด
1.แบบอัดรีด – เป็นมาตรฐานอาหารที่นำส่วนผสมมาบดและผสมกันให้เป็นก้อน จากนั้นนำไปเข้าเครื่องอัดให้เป็นรูปทรงกระบอกแล้วนำไปตัดให้เป็นเม็ดเล็กๆ กระบวนการนี้จะใช้ความร้อนสูงในการทำให้สุกแล้วเคลือบด้วยไขมัน, วิตามิน และสารกันเสีย เพื่อให้อาหารไม่เน่าเสียและมีอายุในการเก็บรักษายาวนาน
2.แบบอบ – วิธีนี้ไม่ค่อยเป็นที่นิยมสักเท่าไหร่นัก อาหารเม็ดแบบอบจะใช้ความร้อนต่ำ จึงทำให้มีรสชาติและสารอาหารอยู่มากกว่าเมื่อเทียบกับแบบอัด แต่จะมีราคาแพงกว่าและค่อนข้างหาซื้อยาก
3.แบบเคลือบ – อาหารเม็ดที่มีลักษณะเฉพาะชนิดนี้บางยี่ห้อก็ใช้เนื้อฟรีซดรายมาเคลือบด้านนอกเม็ดอาหาร ซึ่งกรรมวิธีการเคลือบนี้สามารถทำได้ทั้งในอาหารแบบอบหรือแบบอัด และสามารถใส่หลังจากกระบวนการปรุงอาหารเพื่อเพิ่มสารอาหาร
ข้อดี- ข้อเสียของอาหารเม็ด
ข้อดี
- สะดวกสบายลดความยุ่งยากในการเตรียมอาหาร
- การเคี้ยวอาหารเม็ดช่วยดูแลสุขภาพช่องปากไปในตัว ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย, ป้องกันการเกิดคราบพลัคและหินปูน
- เก็บไว้ได้นาน เมื่อเราเปิดถุงแล้วอาหารข้างในยังสามารถเก็บได้เป็นเดือนโดยที่ไม่เน่าเสีย
- ราคาถูกกว่าอาหารชนิดอื่นๆ
ข้อเสีย
- อาหารบางยี่ห้อก็มีข้อความโฆษณาและการบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ซื่อสัตย์เพื่อใช้ดึงดูดความสนใจของคนซื้อและเพิ่มยอดขาย
- ราคาถูกแต่คุณภาพไม่ดี
- พบการปนเปื้อนหรือความผิดพลาดในกระบวนการผลิต
- อาหารที่ไม่ได้มาตรฐานบางยี่ห้อก็ใส่ชิ้นส่วนที่ไม่มีประโยชน์, ชิ้นส่วนของสัตว์ที่ตายหรือเป็นโรค, สารเคมี, สารกันเสีย, สี, สารช่วยในการผลิตหรือแปรรูป
- อาหารเม็ดหรืออาหารที่มีธัญพืชเป็นหลักอาจมีความเกี่ยวข้องกับอาการท้องอืดในสุนัข
2. อาหารกระป๋อง (Canned Dog Food / Wet Dog Food)
อาหารกระป๋อง หรือ อาหารเปียก เป็นอาหารอีกหนึ่งประเภทที่คนนิยมให้น้องหมากินรองลงมาจากอาหารเม็ด หากคุณอยากเพิ่มความหลากหลายให้อาหารของน้องหมา อาหารเปียกถือเป็นตัวเลือกที่ดีมากและยังมั่นใจได้ว่ามีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุนัข
อาหารที่บรรจุในกระป๋องโลหะสามารถเก็บได้นาน นอกจากนี้ยังมีอาหารแบบถุงและแบบกล่องเหมาะสำหรับผู้เลี้ยงที่มองหาบรรจุภัณฑ์ที่ปราศจาก BPA และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ข้อดี- ข้อเสียของอาหารกระป๋อง
ข้อดี
- รสชาติอร่อยและมีสูตรที่หลากหลายให้เลือก
- ให้เนื้อสัมผัสที่ดี
- มีความชุ่มชื้นสูง ในอาหารกระป๋องมีความชื้นถึง 70 – 80% เทียบกับในอาหารเม็ดที่มีความชื้นอยู่เพียง 10% เท่านั้น
ข้อเสีย
- มีราคาแพงกว่าอาหารเม็ด
- เมื่อเปิดแล้วต้องใช้ให้หมดภายใน 2 – 3 วัน และต้องเก็บไว้ในตู้เย็น
- สุนัขที่กินอาหารกระป๋องเพียงอย่างเดียวจะต้องทำความสะอาดฟันบ่อยๆ
- อาหารกระป๋องมีแคลอรี่น้อย ดังนั้นสุนัขที่ตัวใหญ่จึงต้องกินหลายกระป๋องต่อวัน
3. อาหารที่ถูกสกัดน้ำออกและอาหารฟรีซดราย (Freeze Dried Dog Food)
อาหารแห้งหรือฟรีซดราย เป็นอาหารสุนัขรูปแบบใหม่ที่ได้รับความนิยม โดยทั้งสองเป็นอาหารดิบหรือปรุงแบบไม่สุกมากก่อนจะถูกนำมาเข้าสู่กระบวนการสกัดเอาน้ำออก ซึ่งอาหารชนิดนี้จะมีสารอาหารหลงเหลืออยู่มากกว่าอาหารเม็ดและอาหารกระป๋องที่ต้องผ่านกระบวนการที่มีความร้อนสูง
ข้อดี- ข้อเสียของอาหารฟรีซดราย
ข้อดี
- เป็นอาหารพร้อมทาน
- จัดเตรียมง่าย เพียงแค่เติมน้ำ
- พกพาไปที่ต่างๆได้ง่าย
- เพิ่มความชื้นในระบบย่อยอาหาร
ข้อเสีย
- มีราคาสูง
- เมื่อเติมน้ำลงไปแล้ว จะต้องเอาให้สุนัขกินทันที ถ้าเหลือต้องนำใส่ตู้เย็นและส่วนที่เหลือสามารถเก็บไว้ได้เพียง 24 ชั่วโมง
- อายุการเก็บรักษาอาจลดลงหากเกิดการแตกหักในกระบวนการบรรจุ และไม่ได้เก็บอาหารไว้ในที่ที่มีความชื้นต่ำ
4. อาหารดิบ (Raw Dog Food)
อาหารดิบคืออาหารที่มีความเป็นธรรมชาติมากที่สุดและมีสารอาหารครบถ้วนที่สุดที่เจ้าของสามารถเตรียมให้น้องหมาได้เอง และการให้อาหารดิบที่มีความสมดุลทางโภชนาการนั้นย่อมดีกว่าอาหารเม็ดหรืออาหารกระป๋อง
ข้อดี- ข้อเสียของอาหารดิบ
ข้อดี
- มีสารอาหารหลากหลายจากธรรมชาติที่ไม่ถูกทำลายในกระบวนการผลิตหรือความร้อน
- ทำให้ขับถ่ายน้อยลง
- ทำให้มีสุขภาพช่องปากที่ดี
- ช่วยให้มีสุขภาพขนและผิวหนังที่ดี
ข้อเสีย
- มีราคาสูง
- มีความเสี่ยงในการติดเชื้อจากแบคทีเรียและปรสิต ถ้าหากอาหารมีคุณภาพต่ำและอาหารไม่สดใหม่
- การเตรียมอาหารดิบเองอาจทำให้เกิดการไม่สมดุลของสารอาหาร และสารอาหารไม่ครบถ้วน
- ต้องใช้พื้นที่เยอะในการวางตู้แช่
- ต้องใช้เวลามากในการเตรียมอาหาร
5. อาหารดิบแบบฟรีซดราย (Raw Freeze Dried Dog Food)
อาหารดิบแบบฟรีซดรายเป็นอาหารดิบอีกรูปแบบหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยม อาหารประเภทนี้ เป็นอาหารดิบที่ถูกนำไปไล่ความชื้นออกและถูกกดให้เป็นลูกกลมๆหรือชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ
ก่อนจะให้น้องหมากินอาหารดิบฟรีซดรายจะต้องทำให้อยู่ในสภาพคืนน้ำเสียก่อนด้วยการเติมน้ำลงไป มิฉะนั้นอาหารจะเข้าไปดูดซึมน้ำจากร่างกายสุนัข และอาจก่อให้เกิดอาการท้องอืดได้
ข้อดี- ข้อเสียของอาหารดิบแบบฟรีซดราย
ข้อดี
- เพิ่มความชื้นในร่างกายสุนัข
- เพียงแค่เติมน้ำก็ให้สุนัขกินได้
- มีความนุ่มมากพอสำหรับลูกสุนัขหรือสุนัขอายุมาก
- สามารถพกพาและเก็บรักษาได้ง่าย
- ใช้โรยหน้าอาหารและเป็นขนมได้
ข้อเสีย
- มีราคาสูง
- ต้องใช้เวลานาน เมื่อเติมน้ำลงไปในอาหารแล้วต้องรอประมาณ 15 นาที เพื่อให้อาหารดูดซึมน้ำ
เคล็ดลับในการเลือกซื้ออาหารสุนัข
1. ศึกษาเกี่ยวกับโภชนาการสารอาหารสุนัขให้เข้าใจ
ในปัจจุบัน มีข้อมูลมากมายเกี่ยวโภชนาการอาหารสัตว์ในอินเทอร์เน็ตให้ได้ศึกษา แต่ขณะเดียวกันเราก็ต้องพิจารณาให้ดีเพราะข้อมูลทุกอย่างไม่ได้ถูกต้องไปเสียหมด แนะนำให้ลองดูในเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ และอีกตัวเลือกที่ดีทีสุดก็คือสัตวแพทย์ หากเรามีข้อสงสัยหรือมีปัญหาก็สามารถไปปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำได้
เว็บไซต์ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับสารอาหารสำหรับคนที่เตรียมอาหารให้สุนัขด้วยตนเองเช่น https://secure.balanceit.com/ หรือ http://www.petdiets.com/
2. อ่านฉลากอาหารสุนัขก่อนซื้อ
The Association of American Feed Control Officials (AAFCO) เป็นผู้พัฒนาข้อมูลโภชนาการของสุนัขและลูกสุนัขบนฉลากอาหาร ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นจะให้ความรู้เกี่ยวกับสารอาหารในอาหารถุงนั้นๆ แต่ถึงเป็นข้อกำหนดของ AAFCO ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีที่สุดสำหรับสุนัข ให้ลองหายี่ห้ออาหารที่ดีกว่า AAFCO กำหนดและใช้ส่วนผสมที่คุณภาพสูง เลือกอาหารที่มีเนื้อเป็นส่วนประกอบหลักอยู่ในลำดับที่ 1 – 3 ของส่วนผสมทั้งหมด และหลีกเลี่ยงอาหารที่สารเคมีมากเกินไปและมีปริมาณของข้าวโพด, ถั่วเหลือง และข้าวสาลีที่สูง
3. ถามผู้มีประสบการณ์เกี่ยวกับอาหารสุนัข
เมื่อได้ศึกษาเกี่ยวกับอาหารสุนัขแล้ว ลองคุยกับคนอื่นๆเพื่อถามความคิดเห็นเกี่ยวกับยี่ห้อหรือสูตรอาหาร เริ่มถามได้ตั้งแต่สัตวแพทย์, คนขายสุนัข, ครูฝึกสุนัข, ร้านขายอาหารสุนัขแถวบ้าน, กลุ่มคนเลี้ยงสุนัข, คนอาบน้ำตัดขน หรือแม้แต่กลุ่มในเฟสบุคเกี่ยวกับสุนัข เพื่อให้ได้ความคิดเห็นที่หลากหลายและได้คุยแลกเปลี่ยนกัน
4. ทดลองให้อาหารสุนัข
อาหารหลายยี่ห้อจะมีอาหารขนาดทดลอง ดังนั้นเราสามารถให้สุนัขลองกินก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ อาจจะนำกลับมาที่บ้านสัก 2 – 3 ยี่ห้อ แล้วดูว่าสุนัขชอบกินยี่ห้อไหนมากที่สุด เมื่อเลือกได้แล้วก็ค่อยๆเพิ่มอาหารใหม่ลงไปในอาหารเก่าทีละนิดๆ จนกระทั่งกลายเป็นอาหารใหม่ทั้งหมด
5. เปลี่ยนอาหาร
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนแนะนำว่าให้เปลี่ยนยี่ห้ออาหารทุกๆ 2 – 6 เดือน ถ้าเราให้สุนัขกินอาหารที่ขายตามท้องตลาด การเปลี่ยนยี่ห้ออาหารก็คือการเปลี่ยนบริษัทที่ผลิต ทำให้สุนัขได้รับสารอาหารที่แตกต่างกันไปตามที่บริษัทนั้นทำ
ส่วนอาหารที่เจ้าของปรุงเองก็ควรมีวัตถุดิบที่หลากหลาย หรือจะทำตามสูตรเพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุล การให้อาหารเหมือนเดิมตลอดจะทำให้สุนัขเบื่อและเชื่อว่าสามารถก่อให้เกิดอาการแพ้และนำมาซึ่งโรคต่างๆได้
5 อันดับอาหารสุนัขที่ดีที่สุด
จากบทความข้างต้นก็คงทำให้ใครหลายคนตัดสินใจเลือกซื้ออาหารสุนัขได้ง่ายขึ้น และเรายังได้คัดสรรอาหารสุนัขที่คนนิยมให้น้องหมาและคุณภาพดีที่สุด จะมีตัวไหนบ้าง ไปดูกัน!
1. อาหารเม็ด Royal Canin Mini Adult

อาหารเม็ดสำหรับน้องหมาวัยโตพันธุ์เล็กอายุประมาณ 10 เดือน – 8 ปี อาหารยี่ห้อนี้มีรสชาติที่อร่อยถูกปากน้องหมา แล้วยังมีส่วนประกอบสำคัญอย่าง L-carnitine ที่ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน สามารถรักษาน้ำหนักน้องหมาให้เหมาะสม และยังอุดมไปด้วย EPA-DHA ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้ผิวหนังและขนของน้องหมามีสุขภาพดี นอกจากนี้ยังมีโซเดียมโพลีฟอสเฟตที่ช่วยในการดักจับแคลเซียมในน้ำลาย ทำให้ลดคราบหินปูนในช่องปาก
2. อาหารเม็ด Buzz Dry Dog Food บัซซ์ รสแกะ

อาหารเม็ดสำหรับสุนัขวัยโตที่มีอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป Buzz ประกอบไปด้วยสารอาหารหลายชนิดที่สำคัญคือ วิตามิน E จากน้ำมันรำข้าว และสาร Gamme Oryzanol ที่ช่วยต่อต้านสารอนมูลอิสระและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และยังมีสาร Choline chloride ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำงานของสมองและระบบประสาท รวมไปถึงแคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยส่งเสริมความแข็งแรงของกระดูก
นอกจากนี้ Buzz ใช้สารอาหารที่มีคุณภาพสูงและครบถ้วน โดยมีสัดส่วนโปรตีนสูงถึง 20% ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับน้องหมา และอาหารได้มีการควบคุมปริมาณโซเดียมที่เหมาะสม เพื่อสุขภาพที่ดีของเจ้าตูบ
3. อาหารกระป๋อง Mckelly Cans Dog Wet Food คละรสชาติ (รสไก่, เนื้อวัว และแกะ)

มาถึงอาหารเปียกสุนัขในรูปแบบกระป๋องกันบ้าง อาหารกระป๋อง Mckelly เป็นหนึ่งในอาหารสุนัขยอดนิยมมากที่สุด เหมาะกับน้องหมาที่มีอายุ 1 ปีขึ้นไป โดยจุดเด่นของ Mckelly คือ จะใช้เนื้อสัตว์ล้วน โดยมีสารอาหารที่สำคัญอย่างโปรตีนและแคลเซียมที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของน้องหมา และอุดมไปด้วยไฟเบอร์, เกลือแร่ และวิตามินที่ช่วยในเรื่องของการขับถ่ายอีกด้วย
4. อาหารกระป๋อง Royal Canin Mature +8 Canned Dog Food สำหรับน้องหมาสูงอายุ

อาหารกระป๋องที่ทำออกมาเฉพาะสุนัขอายุตั้งแต่ 8 ปีขึ้นไป (สำหรับน้ำหนักตัว 1-10 กิโลกรัม) ซึ่งจุดเด่นของ Royal Canin Mature +8 คือ จะช่วยกระตุ้นความอยากอาหารของน้องหมา และมีส่วนประกอบที่สำคัญอย่าง วิตามินบีรวมและกรดอะมิโนฮีสติดีนที่ช่วยบำรุงผิวของสุนัข และมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยลดการเสื่อมของหน่วยไต นอกจากนี้ยังควบคุมระดับฟอสฟอรัส เพื่อลดการขับฟอสฟอรัสของไตและช่วยถนอมไตในสุนัขสูงวัย
5. อาหารฟรีซดราย Kelly & Co’s Single Ingredient Freeze-dried Chicken Breast 100%

อาหารสุนัขอบแห้งเยือกแข็งที่ทำจากอกไก่แท้ 100 % มาในขนาดชิ้นพอดีคำ เหมาะเอาไว้เป็นขนมให้น้องหมาทานเล่น และที่สำคัญอาหารยังปราศจากธัญพืชและสารปรุงแต่งกลิ่นสีต่างๆ เหมาะกับน้องหมาที่แพ้อาหาร นอกจากนี้ยังมีสารอาหารครบถ้วน โปรตีนสูงแถมยังแคลอรีต่ำ ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนัก