7 สายพันธุ์สุนัขผลัดขนน้อย

7 สายพันธุ์สุนัขผลัดขนน้อย – ข้อมูลสายพันธุ์และลักษณะนิสัย

มีใครในที่นี่เคยประสบปัญหาสุนัขผลัดขนเยอะ แถมบางทียังขนร่วงทั่วบ้านกันบ้างไหม? แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัญหากวนใจให้กับผู้เลี้ยงไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว เพราะไม่เพียงแค่ขนจะร่วงหล่นอยู่บนพื้นแล้วเท่านั้น แต่ขนของสุนัขอาจปลิวไปติดกับโซฟา เสื้อผ้า หรือแม้แต่อาหารได้ง่าย ดังนั้นการเลือกสุนัขที่มีขนหลุดร่วงน้อย จึงถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดีเช่นกัน ยิ่งสำหรับใครที่เป็นภูมิแพ้แล้ว วันนี้ NongPets จึงได้คัดเลือกสุนัขขนร่วงน้อยมาฝากผู้เลี้ยงทุกคนกัน

1. Bichon Frise (บิชอง ฟริเซ่)

Bichon Frise don't shed
ข้อมูลสายพันธุ์สุนัข
  • น้ำหนัก: 3 – 5 กก.
  • ส่วนสูง: 30 ซม.
  • ช่วงชีวิต: 12 – 15 ปี
  • ลักษณะนิสัย: มีนิสัยร่าเริง ขี้เล่น ใจดี และอารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลา
  • การดูแลรักษาขน: ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนกับผิวหนังของสุนัขเป็นพิเศษ รวมถึงการหวีและเล็มขนน้องเป็นประจำทุกวัน

บิชอง ฟริเซ่ เป็นสุนัขที่มีรูปร่างเล็ก และมีขนปุกปุยดูเหมือนปุยฝ้าย โดยขนชั้นนอกของน้องมีความหยาบ แต่ขนชั้นในของน้องจะมีความนุ่มฟูเหมือนแพรไหม แม้ว่าน้องจะมีขนที่ปกคลุมทั่วร่างกาย แต่น้องขนของน้องจะไม่ผลัดขนมากเท่าไหร่นัก แต่ถึงอย่างไรน้องก็ยังเป็นสุนัขที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย จึงจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนกับผิวหนังของสุนัขเป็นพิเศษ รวมถึงการหวีและเล็มขนน้องเป็นประจำทุกวัน ก็จะช่วยลดการเกิดสังกะตังบนเส้นขนได้เป็นอย่างดี

2. Maltese (มอลทีส)

Maltese don't shed
ข้อมูลสายพันธุ์สุนัข
  • น้ำหนัก: 2 – 5 กก.
  • ส่วนสูง: 20 – 25 ซม.
  • ช่วงชีวิต: 12 – 15 ปี
  • ลักษณะนิสัย: มีนิสัยเรียบร้อย ร่าเริง เชื่อฟังคำสั่งของเจ้านาย ซื่อสัตย์ และเป็นมิตรกับทุกคน
  • การดูแลรักษาขน: ควรแปรงขนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง และควรอาบน้ำให้น้องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

มอลทีส จัดเป็นสุนัขอีกหนึ่งสายพันธุ์ ที่มีลำตัวเล็กและมีดวงตาที่กลมโต ดูน่ารักน่าเอ็นดู บริเวณลำตัวของน้องจะมีขนยาวเรียบตรง ปกคลุมอยู่ทั่วลำตัว ผู้เลี้ยงจึงสามารถจัดแต่งทรงผมได้ง่ายหลากหลายสไตล์ และน้องไม่ใช่สุนัขที่ผลัดขนมากนัก สำหรับวิธีการดูแลรักษาเส้นขนของน้องมอลทีส ควรแปรงขนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้ขนของน้องพันกันจนยุ่งเหยิง นอกจากนี้การเล็มขนบริเวณศรีษะให้สั้นลง หรือการมัดจุกไว้บนหัวให้น้อง ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้ขนทิ่มตาน้อง ถึงแม้ว่าน้องจะเป็นสุนัขขนสั้น แต่ผู้เลี้ยงก็ควรอาบน้ำให้น้องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อเป็นการล้างทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามลำตัวน้องให้ออกไป

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับมอลทีส >>

3. Poodle (พุดเดิ้ล)

poodle don't shed
ข้อมูลสายพันธุ์สุนัข
  • น้ำหนัก: 2-4 กก. (พุดเดิ้ลทอย) / 7-8 กก. (พุดเดิ้ล มินิเจอร์) / 20-32 กก. (พุดเดิ้ล สแตนดาร์ด)
  • ส่วนสูง: < 25 ซม. (พุดเดิ้ลทอย) / 25-38 ซม. (พุดเดิ้ล มินิเจอร์) / >38 ซม. (พุดเดิ้ล สแตนดาร์ด)
  • ช่วงชีวิต: 10-18 ปี
  • ลักษณะนิสัย: เฉลียวฉลาด ซื่อสัตย์ ขี้เล่น และรักการผจญภัย
  • การดูแลรักษาขน: ควรเล็มขนให้น้องทุก ๆ 4-6 สัปดาห์ และควรหวีขนให้น้องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

ถ้าให้พูดถึงสุนัขสายพันธุ์เล็กยอดนิยม ที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็ต่างหลงรักเลยนั่นก็คือ พุดเดิ้ล เนื่องจากน้องเป็นสุนัขแสนรู้ ขี้เล่น ซื่อสัตย์ และรักเจ้าของมากๆ ส่วนรูปลักษณ์ของน้องพุลเดิ้ล จะมีขนหยิกดูคล้ายกับขนแกะ และไม่ผลัดขนเยอะเหมือนกับสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ จึงหมดห่วงเรื่องปัญหาขนหลุดร่วงไปได้เลย ที่สำคัญน้องยังเป็นสุนัขที่ไม่ค่อยมีกลิ่นตัวด้วย หากใครเป็นภูมิแพ้ด้วยแล้ว การเลี้ยงน้องพุดเดิ้ลไว้เป็นเพื่อนคู่ใจ ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน สำหรับใครที่อยากดูแลเส้นขนให้กับน้องพุดเดิ้ล แนะนำว่าควรเล็มขนให้น้องทุกๆ 4-6 สัปดาห์ และควรหวีขนให้น้องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ซึ่งก่อนจะหวีขนให้กับน้อง ควรฉีดพรมน้ำให้ขนเปียกก่อน เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้ขนพันกันแน่น

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับพุดเดิ้ล>>

4. Havanese (ฮาวาเนส)

havanese don't shed
ข้อมูลสายพันธุ์สุนัข
  • น้ำหนัก: 3-6 กก.
  • ส่วนสูง: 20-28 ซม.
  • ช่วงชีวิต: 13-15 ปี
  • ลักษณะนิสัย: มีนิสัยแสนรู้ ฉลาด ร่าเริง เข้ากับคนง่าย และมีความกระตือรือร้น
  • การดูแลรักษาขน: ควรหวีขนอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 ครั้ง ป้องกันไม่ให้ขนจับตัวเป็นก้อน

ฮาวาเนส ถือเป็นสุนัขในอุดมคติของใครหลาย ๆ คนเลยก็ว่าได้ เนื่องจากน้องเป็นสุนัขที่มีนิสัยดี ร่าเริง เข้ากับคนได้ง่าย และมีความกระตือรือร้นมาก โดยน้องฮาวาเนสจะมีเส้นที่หนาถึง 2 ชั้น และมีความนุ่มลื่นดุจเส้นไหม ซึ่งสุนัขสายพันธุ์นี้จะมีหลายสี เช่น ทอง ฟ้า เงิน ครีม แชมเปญ ช็อกโกแลต และดำ น้องเป็นสุนัขที่ไม่ผลัดขน จึงทำให้ขนร่วงในบ้านน้อย หากน้องเริ่มโตเต็มวัย น้องจะมีขนที่ยาวมากถึง 8 นิ้ว จึงจำเป็นต้องได้รับการหวีขนอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 ครั้ง ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ขนจับตัวเป็นก้อน

5. Shih Tzu (ชิสุ)

shih-tzu don't shed
ข้อมูลสายพันธุ์สุนัข
  • น้ำหนัก: 4-7 กก.
  • ส่วนสูง: 20-28 ซม.
  • ช่วงชีวิต: 10-16 ปี
  • ลักษณะนิสัย: มีความร่าเริง กระตือรือร้น และมีความใจเย็นมาก
  • การดูแลรักษาขน: ควรใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนจะปลอดภัยที่สุด ผู้เลี้ยงควรอาบน้ำให้น้องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และหวีขนให้น้องเป็นประจำทุกวัน

เชื่อว่าทุกคนต้องรู้จักสุนัขสายพันธุ์ ชิสุ กันแน่นอน เพราะน้องถือเป็นสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ โดยเอกลักษณ์ของน้องหมาสายพันธุ์นี้ จะมีเส้นขนที่ยาวนุ่มปกคลุมถึง 2 ชั้น ซึ่งเส้นขนจะปกคลุมตั้งแต่ใบหน้าของน้องยาวไปจนถึงหาง แต่น้องเป็นสุนัขที่ไม่ผลัดขน ส่วนมากแล้วน้องจะมีสีขนในตัวมากกว่า 1 สีผสมกัน แต่การที่น้องมีขนยาวมากเป็นพิเศษ หากน้องเคลื่อนไหวร่างกาย เส้นขนบนลำตัวของน้องอาจสัมผัสกับสิ่งสกปรกบนพื้นได้ง่าย ดังนั้นแล้วผู้เลี้ยงควรตัดขนของน้องให้สั้นลงจะดีที่สุด โดยทรงที่แนะนำเลยนั่นก็คือทรง Puppy cut ซึ่งทรงนี้ถือเป็นทรงขนที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ไม่รุงรัง และเพิ่มความน่ารักให้กับน้องได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าน้องจะเป็นสายพันธุ์ที่ไม่ผลัดขน แต่ผิวหนังของน้องค่อนข้างบอบบาง ควรใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนจะปลอดภัยที่สุด นอกจากนี้ผู้เลี้ยงควรอาบน้ำให้น้องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และควรหวีขนให้น้องเป็นประจำทุกวัน

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิสุ >>

6. Miniature Schnauzer (มิเนเจอร์ ชเนาเซอร์)

miniature schnauzer don't shed
ข้อมูลสายพันธุ์สุนัข
  • น้ำหนัก: 5-7 กก.
  • ส่วนสูง: 33 ซม.
  • ช่วงชีวิต: 12-14 ปี
  • ลักษณะนิสัย: มีความกระฉับกระเฉง ขี้เล่น แสนรู้ และรักเจ้าของ 
  • การดูแลรักษาขน: ควรเลือกใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนต่อผิวหนัง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และควรแปรงขนให้น้องเป็นประจำทุกวัน

มิเนเจอร์ ชเนาเซอร์ จัดเป็นสุนัขที่มีหน้าตาเคร่งขรึม และดูไม่เป็นมิตร เนื่องจากรูปลักษณ์ภายนอกของน้อง จะมีหนวดและเครารายล้อมอยู่รอบ ๆ ปาก และมีใบหูพับตก ส่วนบริเวณลำตัวของน้องจะปกคลุมไปด้วยขนที่หนาถึง 2 ชั้น โดยชั้นนอกจะเป็นขนเส้นหยาบและหยิก ส่วนชั้นในจะเป็นขนอ่อน ๆ ส่วนมากแล้วน้องหมาสายพันธุ์นี้จะมีขนสีดำและสีดำเงิน สำหรับวิธีการดูแลรักษาขนของน้อง ควรเลือกใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนต่อผิวหนัง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และควรแปรงขนให้น้องเป็นประจำทุกวัน

7. Yorkshire Terrier (ยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์)

yorkshire terrier don't shed
ข้อมูลสายพันธุ์สุนัข
  • น้ำหนัก: 3 กก.
  • ส่วนสูง: 18-20 ซม.
  • ช่วงชีวิต: 13-16 ปี
  • ลักษณะนิสัย: ชอบเล่น มีความอยากรู้อยากเล่น ชอบผจญภัย และไม่ความกระตือรือร้น 
  • การดูแลรักษาขน: ควรแปรงขนให้น้องวันละ 2 ครั้งเป็นอย่างต่ำ

สุนัขสายพันธุ์ “ยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์” ถือเป็นสุนัขสายประกวดอีกหนึ่งสายพันธุ์ เนื่องจากน้องมีเส้นขนที่ยาวสลวย และมีขนกระจายอยู่ทั่วทั้งลำตัว ตั้งแต่บริเวณดวงตา ปาก หู หาง รอบขาและเท้า โดยเส้นขนที่อยู่ตามลำตัวน้องจะมีความเงางามเป็นเส้นตรง และมีความนุ่มสลวยราวกับเส้นไหม ซึ่งจริงๆ แล้วจุดเด่นของน้องหมาสายพันธุ์นี้จะมีสีขนอยู่ด้วยกัน 4 สี เช่น สีน้ำเงินปนน้ำตาล สีน้ำเงินปนทอง สีน้ำดำปนน้ำตาล และสีดำปนทอง โดยลักษณะเส้นขนของน้องจะจำแนกเป็น 2 แบบด้วยกันคือ Silky และ Soft ซึ่งถือเป็นขนที่ดูแลได้ยากกว่าสุนัขที่มีขนหยาบ ดังนั้นผู้เลี้ยงควรแปรงขนให้น้องวันละ 2 ครั้งเป็นอย่างต่ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ขนพันกัน แต่ถ้าน้องมีขนที่ยุ่งเหยิงและทิ่มตา แนะนำว่าควรมัดขนน้องไว้บนศรีษะจะดีที่สุด

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์>>

“ผลัดขนและขนร่วง” แตกต่างกันอย่างไร?

หลายๆคนคงสับสนคำว่า “ผลัดขน” และ “ขนร่วง” ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วสุนัขจะมีการผลัดขนเป็นเรื่องปกติ เพื่อเป็นการผลัดขนเก่าที่ตายไป และมรการงอกขนใหม่ออกมาแทนที่ ซึ่งในการผลัดขนจะมากหรือน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์และสภาวะอากาศในพื้นที่ที่น้องอยู่ ดังนั้นการแปรงขนให้น้องอยู่เป็นประจำ จะช่วยผลัดขนที่ไม่แข็งแรงที่ติดอยู่ชั้นในออกไป แต่ถ้าหากว่าขนของน้องมีการร่วงเป็นหย่อมๆและไม่มีขนขึ้นมาแทนที่ แสดงว่าสุนัขอาจมีปัญหาในเรื่องของสุขภาพผิวหนัง โดยน้องจะมีอาการเกาคันหรือมีผื่นแดงขึ้น ถ้าคุณสังเกตุเห็นว่าน้องมีอาการผิดปกติดังที่กล่าวไว้ คุณควรพาน้องไปพบสัตวแพทย์ทันที

สายพันธุ์สุนัขที่มีการผลัดขนเยอะ

สุนัขที่มีการผลัดขนเยอะมากกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่น ได้แก่

Leave a Reply

Your email address will not be published.

Show Buttons
Hide Buttons