รีวิว 7 อันดับอาหารแมวที่ดีที่สุด

รีวิว 7 อันดับอาหารแมวที่ดีที่สุด

ในบทความนี้จะกล่าวถึงประเภทของอาหารแมวและสิ่งที่ควรคำนึงก่อนเลือกซื้ออาหารแมว และแนะนำ 7 อันดับอาหารแมวที่เป็นที่นิยมมากที่สุด เพื่อช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกซื้ออาหารที่ถูกปาก ถูกใจ ได้คุณภาพ และเหมาะกับแมวเหมียวที่บ้านคุณ

แนะนำของอาหารแมวที่ดีที่สุดจากเรา

หากใครที่กำลังลังเลและตัดสินใจยังไม่ได้ว่าอาหารแมวยี่ห้อไหนเหมาะกับน้องแมวของคุณที่สุด เราจะช่วยคุณตัดสินใจให้ง่ายขึ้นด้วย 3 อันดับอาหารแมวที่ดีที่สุดจากเราดังนี้

สินค้าที่ดีที่สุดโดยรวม
Petheria (เพ็ทเทอเรีย) Innovation Cat Food
Petheria (เพ็ทเทอเรีย) Innovation Cat Food
อาหารแมวปราศจากกลูเตน
  • ราคา: 268 – 447 บาท
  • ปริมาณ: 1,500 กรัม
  • ประเภทอาหาร: อาหารแห้งชนิดเม็ด
  • เหมาะสำหรับวัย: ทุกช่วงวัย
  • ปริมาณโปรตีน: 32% ของน้ำหนัก
  • คุณสมบัติพิเศษ: ผลิตจากข้าวกล้องออแกนิค และต้นยัคคาชิดิเจอร่าที่มีไฟเบอร์สูง ทำให้ย่อยสลายก้อนขน บำรุงระบบขับถ่าย ป้องกันโรคนิ่ว
คุ้มค่า ราคาสบายกระเป๋า
Kaniva (คานิว่า) อาหารแมว สำหรับแมวทุกช่วงวัย
Kaniva (คานิว่า) อาหารแมว สำหรับแมวทุกช่วงวัย
  • ราคา: 203 – 209 บาท
  • ปริมาณ: 1,300 – 1,500 กรัม
  • ประเภทอาหาร: อาหารแห้งชนิดเม็ด
  • เหมาะสำหรับวัย: ทุกช่วงวัย
  • ปริมาณโปรตีน: 30% ของน้ำหนัก
  • คุณสมบัติพิเศษ: ปราศจากข้าวโพดและกลูเตน เหมาะกับน้องแมวที่แพ้กลูเตน
คุณภาพพรีเมียม
Purina One (เพียวริน่า วัน) อาหารแมวเกรดพรีเมียม
Purina One (เพียวริน่า วัน) อาหารแมวเกรดพรีเมียม
  • ราคา: 305 – 340 บาท
  • ปริมาณ: 1,200 กรัม
  • ประเภทอาหาร: อาหารแห้งชนิดเม็ด และอาหารกึ่งเปียก
  • เหมาะสำหรับวัย: ลูกแมวและแมวโต
  • ปริมาณโปรตีน: 1. สูตรลูกแมวมีโปรตีน 40% 2. สูตรแมวโตเลี้ยงในบ้านมีโปรตีน 38% 3. สูตรผสมเม็ดนิ่มมีโปรตีน 34%
  • คุณสมบัติพิเศษ: 1. สูตรลูกแมวมี DHA พบในน้ำนมแม่ เพื่อพัฒนาการทางสมองและการมองเห็น 2. สูตรแมวโตเลี้ยงในบ้านมีใยอาหารจากธรรมชาติ ลดการเกิดก้อนขนและช่วยระบบขับถ่าย 3. สูตรผสมเม็ดนิ่มมีโปรตีนคุณภาพสูงจากเนื้อปลาแซลมอน เพื่อกล้ามเนื้อและหัวใจแข็งแรง

รีวิว 7 อันดับอาหารแมวที่ดีที่สุด

NongPets ได้คัดสรร 7 อันดับอาหารแมวคุณภาพดีมาให้คุณได้เลือกกัน จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกัน!

1. Kaniva (คานิว่า) อาหารแมว สำหรับแมวทุกช่วงวัย (฿203)

Kaniva (คานิว่า) อาหารแมว สำหรับแมวทุกช่วงวัย
รายละเอียดสินค้า
  • ราคา: 203 – 209 บาท
  • ปริมาณ: 1,300 – 1,500 กรัม
  • ประเภทอาหาร: อาหารแห้งชนิดเม็ด
  • เหมาะสำหรับวัย: ทุกช่วงวัย
  • ปริมาณโปรตีน: 30% ของน้ำหนัก
  • คุณสมบัติพิเศษ: ปราศจากข้าวโพดและกลูเตน เหมาะกับน้องแมวที่แพ้กลูเตน

อาหารแมวชนิดเม็ดมีสารอาหารครบทุกความต้องการของแมวทุกสายพันธุ์ ทุกช่วงวัย อาหารสูตรนี้มีส่วนผสมคุณภาพจากน้ำมันปลาแซลมอนซึ่งอุดมไปด้วย Omega-3 มีส่วนช่วยบำรุงขนให้สวยเงางาม และมีส่วนผสมของน้ำมันพริมโรสยังที่อุดมไปด้วยด้วย Omega-6 ที่มีส่วนช่วยบำรุงชั้นผิว สมานเนื้อเยื่อบนชั้นผิว

นอกจากนี้อาหารยังปราศจากข้าวโพดและกลูเตน เนื่องจากสภาวะร่างกายของน้องแมวหลายสายพันธุ์ไม่เอื้อต่อการรับประทานโปรตีนกลูเตน ทำให้มักจะเกิดภาวะไวต่อกลูเตน แพ้กลูเตน แพ้ข้าวสาลี ฯลฯ การให้น้องแมวทานอาหารแมวที่มีส่วนผสมของกลูเตน หรือแป้งสาลีอาจส่งผลให้น้องแมวมีอาการป่วยได้ เช่นโรคลำไส้แปรปรวนมีผื่นคันขนร่วงเยอะผิวหนังอักเสบ

นอกจากนี้ อาหารแมว Kaniva ยังมีโปรตีนสูง ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อเสริมสร้างภูมิต้านทานปรับสมดุลทางเดินอาหาร ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นช่วยบำรุงขนและผิวหนัง ให้น้องแมวมีขนสวยนุ่ม แถมยังเงางามช่วยลดก้อนขนด้วย

2. Neez Plus (นีซพลัส) Grain free อาหารเม็ดเกรดพรีเมียม (฿109)

Neez Plus (นีซพลัส) Grain free อาหารเม็ดเกรดพรีเมียม
รายละเอียดสินค้า
  • ราคา: 109 – 445 บาท
  • ปริมาณ: 300 – 2,000 กรัม
  • ประเภทอาหาร: อาหารแห้งชนิดเม็ด
  • เหมาะสำหรับวัย: วัยเด็กและโต
  • ปริมาณโปรตีน: 33% ของน้ำหนัก
  • คุณสมบัติพิเศษ: ส่วนประกอบของอาหารผลิตจากเนื้อไก่มากถึง 45% และมีโซเดียมต่ำ เหมาะกับน้องแมวที่มีปัญหาโรคไต

อาหารแมวเกรดพรีเมียม ผลิตจากไก่นำเข้า ไม่มีสารเร่งโต ปลอดภัยสำหรับน้องแมว ส่วนประกอบของอาหารผลิตจากเนื้อไก่มากถึง 45% นอกจากนี้อาหารเป็นสูตร Grain Free ไม่มีส่วนผสมของ ข้าวโพด,ถั่วเหลือง,ข้าวสาลี และกลูเตน ผสมน้ำมันปลาแซลม่อนในตัว แหล่งรวม Omega-3 และ Omega-6 ช่วยบำรุงผิวหนังและขน ลดปัญหาขนร่วง ช่วยให้ขนนุ่นเงางาม ที่สำคัญอาหารสูตรนี้โซเดียมต่ำ ไม่เค็ม เหมาะกับน้องแมวที่กินยากหรือมีปัญหาโรคไต

3. Nekko (เนคโกะ) อาหารแมวเปียกแบบซอง (฿13)

Nekko (เนคโกะ) อาหารแมวเปียกแบบซอง
รายละเอียดสินค้า
  • ราคา: 13 – 15 บาท
  • ปริมาณ: 70 กรัม
  • ประเภทอาหาร: อาหารเปียกชนิดในน้ำเกรวี่และในเยลลี่
  • เหมาะสำหรับวัย: แมวอายุ 1 ปีขึ้นไป
  • ปริมาณโปรตีน: ไม่น้อยกว่า 8% ของน้ำหนัก
  • คุณสมบัติพิเศษ: มีฟลุคโตโอลิโทแซคคาไรด์ ช่วยป้องกันการเกิดก้อนขนในแมว และพรีไบโอติก ช่วยให้น้องแมวขับถ่ายง่าย

สำหรับน้องแมวของใครที่ชอบอาหารแบบเปียกหรืออยากให้น้องแมวลองอาหารใหม่ เราขอแนะนำตัวนี้เลยค่ะ เพราะไม่เฉพาะแค่อาหารมีรสชาติอร่อยแค่นั้น แต่ยังเสริมคุณประโยชน์ที่จำเป็นต่อน้องแมว ดังนี้

  1. DHA จากน้ำมันปลาแซลมอน ช่วยในเรื่องบำรุงสมองและเสริมสร้างระบบประสาท
  2. พรีไบโอติก ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี
  3. ทอรีน ช่วยบำรุงสายตาและการมองเห็น
  4. วิตามินอี บำรุงผิวหนังและเส้นขนให้มีสุขภาพดี
  5. ฟลุคโตโอลิโทแซคคาไรด์ ลดการก่อตัวของก้อนขน

แถมอาหารตัวนี้ทำจากเนื้อปลาแท้ 100% ไม่ใส่วัตถุกันเสียและสีสังเคราะห์ ไม่เติมเกลือเพิ่ม มีสองแบบให้เลือก อาหารในน้ำเกรวี่และเยลลี่ แถมยังมีหลายรสชาติให้เลือก รับรองว่าดีต่อสุขภาพน้องแมวแน่นอน!

4. Petheria (เพ็ทเทอเรีย) Innovation Cat Food อาหารแมวปราศจากกลูเตน (฿268)

Petheria (เพ็ทเทอเรีย) Innovation Cat Food อาหารแมวปราศจากกลูเตน
รายละเอียดสินค้า
  • ราคา: 268 – 447 บาท
  • ปริมาณ: 1,500 กรัม
  • ประเภทอาหาร: อาหารแห้งชนิดเม็ด
  • เหมาะสำหรับวัย: ทุกช่วงวัย
  • ปริมาณโปรตีน: 32% ของน้ำหนัก
  • คุณสมบัติพิเศษ: ผลิตจากข้าวกล้องออแกนิค และต้นยัคคาชิดิเจอร่าที่มีไฟเบอร์สูง ทำให้ย่อยสลายก้อนขน บำรุงระบบขับถ่าย ป้องกันโรคนิ่ว

อาหารแมวชนิดเม็ดที่ทำจากเนื้อเปลาทูน่าเกรดพรีเมียมทั้งตัว และข้าวกล้องออแกนิคจากธรรมชาติ ราดด้วยน้ำมันปลาแซลมอนนอร์เวย์ ผสมผสานด้วยสัดส่วนที่ลงตัว รสชาติอร่อย และได้คุณค่าทางโภชนาการและสารอาหารครบถ้วน

  1. โปรตีน จากเนื้อเปลาทูน่าล้วน ๆ ทำให้ร่างกายแข็งแรง อายุยืนยาว
  2. ไขมัน จากน้ำมันปลาแซลมอนนอร์เวย์สกัด ด้วยสัดส่วนที่พอเหมาะ ทำให้ขนสวยเงางาม และไม่อันตรายต่อแมว
  3. ไฟเบอร์ จากข้าวกล้องออแกนิค และต้นยัคคาชิดิเจอร่า ทำให้ย่อยสลายก้อนขน บำรุงระบบขับถ่าย ป้องกันโรคนิ่ว
  4. ความชื้น จากน้ำมันปลาแซลมอลที่ปริมาณที่พอเหมาะ ทำให้มีน้ำในอาหารกำลังดี ป้องกันท่อปัสสาคอุตตัน และการเกิดโรคนิ่ว

นอกจากนี้อาหารยังผลิตจากโรงงานที่ได้มาตราฐานระดับโลก และผ่านคุณสมบัติของกองควบคุมโภชนาการอาหารสัตว์เลี้ยง จากสหรัฐอเมริกา (AAFCO) ซึ่งควบคุมส่วนผสมทุกด้าน เช่น ความเค็มของอาหาร จึงมั่นใจได้ว่าไม่ส่งผลเสียต่อไตของแมวแน่นอน

5. Regalos (รีกาลอส) อาหารแมวเปียก เกรดพรีเมียม (฿12)

Regalos (รีกาลอส) อาหารแมวเปียก เกรดพรีเมียม
รายละเอียดสินค้า
  • ราคา: 12 – 13 บาท
  • ปริมาณ: 70 กรัม
  • ประเภทอาหาร: อาหารเปียกชนิดในน้ำเกรวี่และในเยลลี่
  • เหมาะสำหรับวัย: ลูกแมวอายุ 4 สัปดาห์ขึ้นไป
  • ปริมาณโปรตีน: ไม่น้อยกว่า 11% ของน้ำหนัก
  • คุณสมบัติพิเศษ: มี Omega-3 ช่วยบำรุงผิวหนังและเส้นขน ไม่ใส่วัตถุกันเสียและไม่เติมเกลือ

อาหารเปียกแมว Regalos เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับน้องแมวทุกช่วงวัย วัตถุดิบผลิตจากเนื้อปลาทูน่าเกรดพรีเมียมแท้ 100% อุดมไปด้วย Omega-3 ที่มีส่วนช่วยบำรุงผิวหนังและเส้นขน เสริมด้วยน้ำมันปลาและทอรีน ช่วยบำรุงหัวใจและสายตา ที่สำคัญอาหารแมวสูตรนี้ไม่ใส่วัตถุกันเสียและไม่เติมเกลือลงไปในวัตถุดิบด้วย น้องแมวปลอดภัยหายห่วง

6. Purina One (เพียวริน่า วัน) อาหารแมวเกรดพรีเมียม (฿305)

Purina One (เพียวริน่า วัน) อาหารแมวเกรดพรีเมียม
รายละเอียดสินค้า
  • ราคา: 305 – 340 บาท
  • ปริมาณ: 1,200 กรัม
  • ประเภทอาหาร: อาหารแห้งชนิดเม็ด และอาหารกึ่งเปียก
  • เหมาะสำหรับวัย: ลูกแมวและแมวโต
  • ปริมาณโปรตีน: 1. สูตรลูกแมวมีโปรตีน 40% 2. สูตรแมวโตเลี้ยงในบ้านมีโปรตีน 38% 3. สูตรผสมเม็ดนิ่มมีโปรตีน 34%
  • คุณสมบัติพิเศษ: 1. สูตรลูกแมวมี DHA พบในน้ำนมแม่ เพื่อพัฒนาการทางสมองและการมองเห็น 2. สูตรแมวโตเลี้ยงในบ้านมีใยอาหารจากธรรมชาติ ลดการเกิดก้อนขนและช่วยระบบขับถ่าย 3. สูตรผสมเม็ดนิ่มมีโปรตีนคุณภาพสูงจากเนื้อปลาแซลมอน เพื่อกล้ามเนื้อและหัวใจแข็งแรง

อาหารแมวชนิดเม็ดคุณภาพพรีเมียม ที่มาพร้อมกับ 3 สูตรสำหรับน้องแมวต่างโดยเฉพาะ อีกทั้งยังคุณค่าทางโภชนาการสูง ช่วยในการเจริญเติบโตของน้องแมวในแต่ละวัย โดยทั้งสามสูตรมีดังนี้

สูตร Healthy Kitten Formula – สำหรับลูกแมวทุกสายพันธุ์

อาหารแมวทำจากเนื้อไก่และข้าว DHA พบในน้ำนมแม่ เพื่อพัฒนาการทางสมองและการมองเห็น สารต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิต้านทาน แคลเซียมเพื่อกระดูกแข็งแรง แถมยังมีโปรตีนสูง เหมาะสำหรับลูกแมวที่กำลังเจริญเติบโต อาหารเม็ดขนาดเล็กช่วยดูแลสุขภาพช่องปาก ช่วยลดกลิ่นปากและหินปูน

สูตร Indoor Advantage – สำหรับแมวโตเลี้ยงในบ้าน ทุกสายพันธุ์

อาหารแมวที่ทำจากใยอาหารจากธรรมชาติ ลดการเกิดก้อนขนและช่วยระบบขับถ่าย มี Omega-3, Omega-6 และวิตามินอี ช่วยบำรุงขนและผิวหนัง มีโปรตีนจากเนื้อไก่งวง ช่วยสร้างเสริมกล้ามเนื้อและหัวใจให้แข็งแรง นอกจากนี้อาหารยังมีแคลอรี่ต่ำ ช่วยควบคุมน้ำหนัก สำหรับแมวในบ้านที่มีกิจกรรมน้อย

Tender Selects Blend with Salmon Formula – สำหรับแมวโตทุกสายพันธุ์ สูตรผสมเม็ดนิ่ม

อาหารทำจากโปรตีนคุณภาพสูงจากเนื้อปลาแซลมอน เพื่อกล้ามเนื้อและหัวใจแข็งแรง และมีสารต้านอนุมูลอิสระจากวิตามิน A, E และซิลีเนียม ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน นอกจากนี้เนื้อสัมผัสอาหารยังเป็นแบบเม็ดกรุบกรอบกับชิ้นเนื้อนุ่มหนึบ เสริมความอร่อยมากขึ้น

7. Orijen อาหารแมวเกรดสูง คุณภาพดี (฿199)

Orijen อาหารแมวเกรดสูง คุณภาพดี
รายละเอียดสินค้า
  • ราคา: 199 – 429 บาท
  • ปริมาณ: 340 – 1,000 กรัม
  • ประเภทอาหาร: อาหารแห้งชนิดเม็ด
  • เหมาะสำหรับวัย: ลูกแมวและแมวโต
  • ปริมาณโปรตีน: 1. สูตร Orijen Cat & Kitten มีโปรตีน 40% 2. สูตร Orijen Fit&Trim มีโปรตีน 44% 3. Orijen Six Fish มีโปรตีน 42%
  • คุณสมบัติพิเศษ: 1. สูตร Orijen Cat & Kitten เน้นโปรตีนสูงและไขมัน เพื่อลูกแมวที่กำลังเติบโตและแมวที่ตั้งครรภ์ 2. สูตร Orijen Fit&Trim เน้นสร้างโปรตีน มีโปรตีนสูง ลดไขมันลง 3. สูตร Orijen Six Fish อาหารโปรตีนสูงเหมาะสำหรับแมวที่แพ้โปรตีนจากไก่ เน้นการดูแลเรื่องผิวหนังและขน

อาหารแมวชนิดเม็ดคุณภาพพรีเมียม ที่มาด้วยกัน 3 สูตรสำหรับน้องแมวต่างกิจกรรม โดยทั้งสามสูตรมีดังนี้

สูตร Orijen Cat & Kitten – สำหรับลูกแมวและแมวโต เพื่อการบำรุงแมวและลูกแมวอย่างสมบูรณ์

อาหารแมวมีส่วนผสม ไก่, ไก่ง่วง, ปลาทะเลน้ำลึกและไข่ไก่สดทั้งใบ เน้นโปรตีนสูงและไขมัน เพื่อลูกแมวที่กำลังเติบโตและแมวที่ตั้งครรภ์

สูตร Orijen Fit&Trim – สำหรับน้องแมวที่ชอบทำกิจกรรม ต้องการให้หุ่นกระชับ

อาหารแมวนักกล้ามที่เพิ่มโปรตีน จำกัดคาร์โบไฮเดรต ลดปริมาณไขมัน ผสมไฟเบอร์ สำหรับแมวที่ชอบทำกิจกรรม เน้นกล้ามเนื้อ หรือ เป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ส่วนผสมอาหารทำจากไก่, ไก่งวง ,ตับไก่, ปลาทะเลน้ำลึกและไข่ไก่สดทั้งใบ

สูตร Orijen Six Fish – สำหรับแมวโต 1 ปีขึ้นไป ช่วยลดคราบน้ำตา ขนสวยเป็นเงางาม

อาหารโปรตีนสูงเหมาะสำหรับแมวที่แพ้โปรตีนจากไก่ เพราะทำจากปลาทะเลน้ำลึก 6 ชนิด อุดมไปด้วยวิตามินมากมาย วิตามิน A, D3, ไบโอติน, B12 ช่วยเน้นการดูแลเรื่องผิวหนังและขนเป็นพิเศษ

ประเภทของอาหารแมว

1. อาหารเม็ด

หรือที่เรียกว่าอาหารแห้ง  จะมีความชุ่มชื้นในอาหารประมาณ 6 – 10% แตกต่างกันไปในแต่ละสูตร เป็นการนำวัตถุดิบต่างๆมาผสมกันแล้วนำไปอัดรีด  จากนั้นตัดให้มีขนาดพอดีคำและอบแห้ง ส่วนมากนิยมเคลือบด้วยตัวเพิ่มรสชาติ เช่น ไขมันสัตว์ เพื่อทำให้อาหารน่ากินยิ่งขึ้น

ข้อดี

  • ราคาไม่สูง 
  • เก็บไว้ได้นาน
  • สะดวกสบาย สามารถตวงปริมาณและตักให้แมวได้ง่าย
  • ให้พลังงานสูง
  • สามารถตักทิ้งไว้ในชามให้แมวกินได้ทั้งวันโดยที่ไม่เน่าเสีย
  • ช่วยดูแลสุขภาพช่องปาก การกัดแทะอาหารเม็ดรูปทรงต่างๆจะเป็นการช่วยขัดฟัน นอกจากนั้นอาหารเม็ดบางสูตรยังใส่สารที่ช่วยลดการก่อตัวของหินปูน

ข้อเสีย

  • หากซื้ออาหารถุงใหญ่เกินไป เมื่อเปิดถุงแล้วอากาศจะเข้าไปด้านใน ทำให้สารอาหารบางตัวถูกทำลายได้
  • อาหารเม็ดสามารถมีลักษณะแห้งเหี่ยวได้ถ้าเปิดถุงนาน 2เดือนขึ้นไป ถึงแม้จะเก็บไว้ในบรรจุภัณฑ์ปิดสนิทไม่มีอากาศเข้าก็ตาม และทำให้สูญเสียสารอาหารที่จำเป็นอีกด้วย 
  • มีคาร์โบไฮเดรตสูงจากสารที่ใช้เคลือบเม็ดอาหาร
  • รสชาติและความน่ากินน้อยกว่าอาหารกึ่งเปียกและอาหารเปียก
  • ย่อยยากกว่าอาหารเปียกและอาหารกึ่งเปียก

2. อาหารแบบกึ่งเปียก

อาหารประเภทนี้จะมีความชุ่มชื้นในอาหารประมาณ 35% อาหารแบบกึ่งเปียกสูตรที่ไม่มีพืชจะผลิตมาจากเนื้อสัตว์และผลพลอยได้จากเนื้อ ส่วนอาหารกึ่งเปียกแบบทั่วไปจะมีถั่วเหลืองและธัญพืชผสมเป็นส่วนประกอบ ด้วยความที่มีการปรุงรสค่อนข้างเยอะ อาหารกึ่งเปียกจึงเหมาะกับการให้เป็นขนมเป็นครั้งคราว ไม่ควรให้เป็นอาหารหลัก

ข้อดี

  • มีความชุ่มชื้นมากกว่าอาหารแห้ง
  • ราคาอยู่ในช่วงกลางๆไม่ต่ำและไม่สูงเกินไป
  • ย่อยง่าย
  • มีรสชาติดี
  • ให้แมวได้ง่ายๆ เพียงแค่ฉีกซองและเทใส่ชามอาหาร

ข้อเสีย

  • เมื่อเปิดบรรจุภัณฑ์ทิ้งไว้จะทำให้อาหารแห้งหรือมีกลิ่นเหม็น
  • มีส่วนผสมของเกลือและน้ำตาลมากกว่าอาหารเม็ดและอาหารเปียก
  • หลายๆยี่ห้อใส่สารแต่งสี, สารปรุงรส, และสารกันบูด

3. อาหารแบบเปียก

หรืออาหารกระป๋อง มีความชุ่มชื้นประมาณ 75% ซึ่งเยอะที่สุดในประเภทอาหารทั้งหมด เป็นอาหารที่มีรสชาติดีและถูกปากแมวส่วนใหญ่ เมื่อเปิดแล้วเหลือควรเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อรักษาคุณภาพและป้องกันการเน่าเสีย

ข้อดี

  • เพิ่มน้ำและความชุ่มชื้นให้กับร่างกายแมว
  • เพราะว่ามีน้ำอยู่เยอะ แมวจึงสามารถกินอาหารเปียกในปริมาณที่เยอะกว่าเพื่อให้ได้แคลอรี่ที่เท่ากับอาหารเม็ด
  • เหมาะสำหรับแมวที่ไม่ค่อยดื่มน้ำ
  • มีรสชาติดี
  • สามารถเก็บไว้ได้นาน

ข้อเสีย

  • มีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบปริมาณอาหาร และปริมาณแคลอรี่กับอาหารเม็ด
  • อาจทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มฟันอักเสบได้
  • อาหารกระป๋องบางยี่ห้อมีสารอาหารที่ไม่ครบถ้วน
  • หากเททิ้งไว้จะเน่าเสียได้

สิ่งที่ควรคำนึงก่อนเลือกซื้ออาหารแมว

1. ดูอายุและความต้องการพลังงานของแมว

  • ช่วงวัยเด็ก

เมื่อลูกแมวเริ่มโตและหย่านมแล้ว ให้เริ่มเปลี่ยนไปให้อาหารสูตรสำหรับลูกแมว แมวเด็กต้องการพลังงานมาก ดังนั้นเราต้องแน่ใจว่าอาหารที่ให้เป็นอาหารสำหรับลูกแมวจริงๆ น้องแมวจะกินอาหารสำหรับลูกแมวจนกระทั่งอายุประมาณ 1 ปี

  • ช่วงโตเต็มวัย

แมวโตที่ใช้พลังงานในระดับปกติต้องการอาหารสูตรทั่วไปสำหรับแมววัยโต ควรเลือกอาหารที่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบในอาหารและควรมีถ้วยน้ำเปล่าวางไว้ใช้แมวได้กินตลอดวัน

  • ช่วงสูงวัย

เมื่อแมวมีอายุถึง 7 ปี ต้องเริ่มให้แมวกินอาหารสำหรับแมวสูงวัย ซึ่งเป็นสูตรอาหารที่ช่วยดูแลสุขภาพและควบคุมน้ำหนัก นอกจากนี้สามารถไปปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารที่เหมาะกับแมวในวัยนี้

2. สภาพร่างกาย

  • แมวที่มีร่างกายปกติ

ถ้าแมวมีสุขภาพดี น้ำหนักตามเกณฑ์ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี จุดที่ไม่ควรมองข้ามคือฝึกพฤติกรรมการกินที่ดี แต่ทั้งนี้คำแนะนำที่ระบุอยู่บนฉลากอาหารก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอ ควรไปปรึกษากับสัตวแพทย์เพื่อให้ได้ข้อมูลและคำแนะนำที่ถูกต้อง

  • แมวที่มีน้ำหนักมาก

สาเหตุใหญ่ที่ทำให้น้องกลายเป็นแมวอ้วน เพราะปริมาณอาหารที่ควรให้ที่ระบุอยู่บนฉลากอาหารไม่เหมาะสมกับแมว อีกหนึ่งสาเหตุใหญ่คือ การมีอาหารเม็ดให้แมวกินตลอดทั้งวัน เมื่อแมวอยากกินก็กินได้ตลอด ซึ่งแมวที่มีน้ำหนักมากจะมีความเสี่ยงเป็นโรคตับ, โรคเบาหวาน, และโรคข้ออักเสบ ควรขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์เกี่ยวกับอาหารและการดูแลสุขภาพของแมวที่มีปัญหาน้ำหนักมาก

  • แมวที่มีร่างกายผอม

แมวร่างกายผอมอาจเป็นสัญญาณของปัญหาใหญ่ เช่น โรคโลหิตจาง หรือ มีพยาธิ ถ้าแมวของคุณกินอาหารแต่น้ำหนักไม่เพิ่มขึ้น หรือแมวมีพฤติกรรมไม่กินอาหารเลย ควรพาแมวไปหาสัตวแพทย์ หรืออีกกรณีหนึ่งก็คือแมวผอมเพราะไม่ชอบอาหารที่คุณให้และไม่ยอมกินจนทำให้ร่างกายผอม สัตวแพทย์จึงเป็นผู้ที่สามารถบอกได้ว่าแมวมีปัญหาสุขภาพหรือแค่จุกจิกเลือกกิน

3. ปัญหาสุขภาพ

  • โรคเบาหวาน

อาหารเป็นส่วนที่สำคัญอย่างมากสำหรับแมวที่เป็นโรคเบาหวาน อาหารเม็ดไม่มีความชื้นมากพอจึงไม่แนะนำ ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อจะได้จัดอาหารที่ถูกต้องสำหรับแมวที่เป็นโรคนี้

  • โรคไต

หากแมวเป็นโรคไต ต้องให้ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ อาหารเม็ดไม่เหมาะสำหรับแมวที่เป็นโรคไต และควรให้อาหารที่มีปริมาณโปรตีนและฟอสเฟสต่ำ

  • ปัญหาสุขภาพอื่นๆ

แมวก็เหมือนมนุษย์ที่สามารถเกิดการแพ้อาหาร, ภูมิแพ้ผิวหนัง, และโรคหัวใจ ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นบ่อยๆและเจ้าของต้องระวังเวลาเลือกซื้ออาหาร

4. งบประมาณ

แมวไม่สนใจหรอกว่าอาหารที่กินนั้นราคาแพงลิบลิ่วหรือเป็นปลาต้มธรรมดาๆ เจ้าแมวรู้แค่ว่าอยากจะกินอาหารที่อร่อยและดีต่อสุขภาพ เพราะฉะนั้นลองนำข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมาไปพิจารณาและเลือกซื้ออาหารให้เหมาะสมกับงบที่คุณมี

5. ดูส่วนผสมบนฉลาก

เลือกอาหารที่มีส่วนผสมของทอรีน, น้ำ, วิตามิน, แร่ธาตุ, เอนไซม์, กรดไขมัน, และโปรตีน ไม่ควรเลือกอาหารท่ีมีส่วนผสมของแป้งข้าวโพด หรือมีคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป และควรดูวันผลิตวันหมดอายุทุกครั้ง

6. เลือกอาหารที่มีโปรตีนเป็นอันดับหนึ่ง

แมวเป็นสัตว์ที่กินเนื้อเป็นหลัก ดังนั้นเนื้อสัตว์จึงเป็นสารอาหารที่จำเป็นในอาหารแมว เวลาเลือกซื้ออาหารจึงควรอ่านส่วนผสม โดยโปรตีนควรอยู่หนึ่งในสามอันดับแรก ซึ่งโปรตีนที่ว่านี้ก็หมายถึงเนื้อสัตว์นั่นเอง เช่น เนื้อไก่, เนื้อปลา

Leave a Reply

Your email address will not be published.

Show Buttons
Hide Buttons