มอลทิส เจ้าหมาพันธุ์เล็ก มาพร้อมกับความอ่อนโยน ขี้เล่น และเป็นมิตรทำให้เป็นที่รักของทุกคน ด้วยรูปลักษณ์ที่ขาวสะอาด ขนสุขภาพดียาวตรงปกคลุมทั้งตัว ดวงตากลมแป๋ว สีดำ หน้าตาน่ารัก แต่ด้วยรูปร่างที่เล็ก กะทัดรัด หน้าตาน่ารักแบบนี้ น้องก็ไม่ใช่หมาที่อ่อนแอเลย น้องเป็นหมาฉลาด แถมยังใจใหญ่ ไม่กลัวสุนัขตัวใหญ่เลยซักนิด
สำหรับคนที่ชื่นชอบสุนัขตัวเล็ก ขี้อ้อนอยู่แล้ว NongPets ขอรับประกันว่าหลังจากที่คุณได้อ่านบทความนี้ คุณจะตกหลุมรักความน่ารักของเจ้าจิ๋วตัวนี้แน่นอน
ต้นกำเนิดของมอลทิส
มอลทิสจัดว่าเป็นสุนัขที่เก่าแก่ที่สุดในกลุ่ม Toy และมีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน แต่ก็ยังไม่สามารถทราบอย่างแน่ชัดถึงต้นกำเนิดที่แท้จริงของมอลทิส หลายคนเชื่อว่าสายพันธุ์นี้ถูกพัฒนามาจากเกาะมอลตาในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จากสุนัขพันธุ์ Spitz หรือ Spahiel นอกจากนี้ ยังเชื่อกันว่ามอลทิสถูกพัฒนาสายพันธุ์มาจากประเทศอิตาลี และยังมีความเชื่ออื่นๆอีกว่ามอลทิสมีต้นกำเนิดมาจากทวีปเอเชีย และถูกพัฒนาสายพันธุ์ร่วมกับสุนัขตัวเล็กหลากหลายสายพันธุ์ของเอเชีย
ในศตวรรษที่ 17 และ 18 มอลทิสเกือบมีการสูญพันธุ์ เนื่องจากได้มีการปรับปรุงสายพันธุ์ของมอลทิสให้มีขนาดเล็กเท่ากับกระรอก แต่ก็ได้มีการฟื้นฟูการพัฒนาสายพันธุ์ โดยการทดลองผสมสายพันธุ์พุดเดิ้ลกับสเปเนียลขนาดเล็ก และสุนัขพันธุ์เล็กของเอเชียตะวันออกในทำให้มีการรักษาสายพันธุ์ไว้ได้อีกครั้ง ทำให้ผลจากการพัฒนาสายพันธุ์ในครังนี้เป็นต้นกำเนิดของสุนัขหลายๆสายพันธุ์อีกด้วย
มอลทิสได้รับความนิยมตั้งแต่ในปี ค.ศ. 1950 กลุ่มผู้เพาะพันธุ์สุนัขชาวอังกฤษได้พัฒนามอลทิสให้มีมีลักษณะอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน จนทำให้มีความนิยมเพิ่มขึ้นไปทั่วโลกและเป็นที่ชื่นชอบมาจนถึงทุกวันนี้
ลักษณะของมอลทิส
ลักษณะทางกายภาพ
- น้ำหนัก: เพศผู้ 2.7 – 3.2 กิโลกรัม เพศเมีย 1.8 – 2.7 กิโลกรัม
- ความสูง: เพศผู้ 20 – 25 เซนติเมตร, เพศเมีย 20 – 22 เซนติเมตร
- สายพันธ์ุ: Companion dog หรือ Toy
- ขน: มีลักษณะหนา ยาว เหยียดตรงปกคลุมทั้งตัว
- สีขน: สีขาวมันวาว
- ลักษณะเด่น: ขนยาวเรียบเป็นเงาสีขาวปกคลุมทั้งตัว ตัวเล็กกะทัดรัด หูพับ
- ช่วงชีวิต: มีอายุประมาณ 12-15 ปี
นิสัยและพฤติกรรมทั่วไป
โดยธรรมชาติแล้วน้องมอลทิสเป็นสุนัขที่มีนิสัยร่าเริง อ่อนโยน น้องชอบอยู่กับผู้คน น้องเป็นมิตรกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์อื่นๆ แต่ด้วยรูปร่างที่เล็ก กะทัดรัด หน้าตาน่ารักแบบนี้ น้องก็ไม่ใช่หมาที่อ่อนแอเลย น้องเป็นหมาฉลาด แถมยังใจใหญ่ ไม่กลัวสุนัขตัวใหญ่เลยซักนิด แต่ถึงแม้ว่าน้องจะเป็นหมาใจนักเลงยังไงก็ตาม น้องก็อาจโดนทำร้ายโดยสุนัขที่ตัวใหญ่กว่าได้ เพราะฉะนั้นผู้เลี้ยงควรดูแลน้องให้ดีตอนอยู่นอกบ้าน
น้องจะสามารถปรับตัวอยู่ได้ทั้งบ้านและอพาร์ทเมนท์ และยังเป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ดีอีกด้วย เพราะน้องเห่าเก่ง จนบางทีน้องเห่าก้เห่าจนสร้างความรำคาญใจให้เจ้าของและเพื่อนบ้านได้
น้องมอลทีสเป็นหมาที่ฉลาดและฝึกง่าย และยิ่งถ้ามีรางวัลล่อใจเป็นขนม คำชม และของเล่นต่างๆ น้องก็จะยิ่งตอบสนองต่อการฝึกมากขึ้น
วิธีการเลี้ยงและดูแลมอลทิส
ได้เรียนรู้ถึงนิสัยและพฤติกรรมของน้องกันไปแล้ว ใครที่อยากเรียนรู้ ทำความเข้าใจการเลี้ยงดูน้อง NongPet จะมาแนะนำวิธีการเลี้ยงดูอย่างถูกวิธี เพื่อให้น้องมีสุขภาพร่างกายและใจที่ดี
วิธีการเลี้ยงดู
น้องมอลทิสเป็นสุนัขที่กระตือรือร้น คล่องแคล่วและว่องไว ผู้เลี้ยงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับน้องมากนัก เพราะน้องสามารถดูแลตัวเองได้
เจ้ามอลทิสจะสนุกกับการได้วิ่งเล่นนอกบ้าน แต่น้องเหมาะที่จะเลี้ยงในที่ร่มมากกว่า เพราะตัวน้องเองไม่สามารถทนต่อสภาพอากาศร้อนเกินไปหรือหนาวเกินไป ดังนั้นอาจจะฝึกน้องโดยที่ไม่ต้องพาน้องออกไปข้างนอกก็ได้
โดยหลักการแล้ว ควรรอให้น้องมีอายุเกิน 8 ก่อนถึงจะพาน้องเดินเล่นในที่ไกลๆได้ เพราะในวัยนี้กระดูกยังมีการพัฒนาอยู่เรื่อยๆ
อาหารของมอลทิส
เรื่องอาหารของน้องมอลทีสผู้เลี้ยงควรจะใส่ใจมากเป็นพิเศษ เพราะระบบย่อยอาหารของน้องไม่ค่อยแข็งแรงสักเท่าไหร่ และน้องยังมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของเหงือกและฟันอีกด้วย
ปริมาณอาหารที่แนะนำ
เราสามารถให้อาหารน้องได้ทั้งแบบเปียกและแห้ง สุนัขทั่วไปจะชอบแบบเปียกมากกว่า แต่อาหารแบบเปียกอาจนำไปสู่อาการไหลของลำไส้ของน้องได้ นอกจากนี้ อาหารเม็ดจะให้พื้นที่ผิวสัมผัสที่ดีต่อสุขภาพฟันของน้องมากกว่า
ผู้เลี้ยงอาจจะผสมอาหารแบบเปียกเข้าไปด้วยเล็กน้อย และควรจะเป็นยี่ห้อเดียวกับอาหารเม็ด หรืออาจจะผสมกับอาหารปรุงสุก เช่นโรยด้วยเนื้อไก่โซเดียมต่ำ เพื่อเป็นการเพิ่มสารอาหารให้กับน้อง
นอกจากนี้อาหารที่อุ่นๆยังช่วยกระตุ้นความอยากอาหารได้มากขึ้น ดังนั้นควรอุ่นอาหารให้น้องก่อน ควรเป็นอาหารปรุงสุกเท่านั้น และไม่ร้อนจนเกินไป
วิธีดูแลรักษามอลทิส
- การดูแลรักษาความสะอาด
น้องมอลทิสจะสกปรกง่าย ดังนั้นควรหมั่นอาบน้ำทำความสะอาดให้น้องทุกๆสัปดาห์
ควรเช็คหูของน้องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ถ้าหูของน้องระคายเคืองง่ายหรือเริ่มมีกลิ่นเหม็นควรพาน้องไปตรวจกับสัตวแพทย์
นอกจากนี้มอลทิสยังมีแนวโน้มเกิดคราบน้ำตาบนใบหน้า เพื่อเป็นการป้องกันหรือลดคราบน้ำตา ควรปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้
- ใช้น้ำอุ่นทำความสะอาดรอบๆดวงตาทุกวัน เพื่อป้องกันการเกิดคราบน้ำตา
- ควรฝึกน้องให้น้องดื่มน้ำสะอาดจากภาชนะที่จัดเตรียมไว้ให้เท่านั้น และภาชนะควรจะเป็นพวกสแตนเลส หรือแก้วต่างๆ ไม่ควรใช้ภาชนะที่ทำจากพลาสติก
- ล้างหนวดเคราของน้องหลังทานอาหารทุกครั้ง
- การดูแลรักษาขน
ขนของน้องจะไม่ค่อยร่วงเยอะเมื่อเทียบกับสุนัขพันธุ์อื่นๆ แต่ถ้าปล่อยให้ขนของน้องยาวมากเกินไปอาจทำให้ขนพันกันได้ง่าย ควรหมั่นแปรงขนให้น้องเป็นประจำทุกวัน ควรใช้มือสางขนอย่างเบาๆอาจจะใช้สเปรย์หรือน้ำมันช่วยถ้าหากขนพันกันมาก
หลังจากนั้น ใช้ปลายซี่หวีหวีขนแต่ละเส้นอย่าพยายามดึงขนทั้งแผงออกพร้อมกัน และควรแน่ใจว่าขนทั้งหมดเรียบตรงดีแล้วก่อนจะพาน้องอาบน้ำ เพราะขนของน้องมักจะติดพันกันแน่นตอนน้องเปียก
สุขภาพของมอลทิส
โรคที่อาจเกิดกับน้องมอลทิสมีดังนี้
- Patellar luxation: สะบ้าเคลื่อน
- Portosystemic liver shunt: ภาวะผิดปกติของหลอดเลือด
- Progressive Retinal Atrophy (PRA): โรคตาเสื่อม ตาบอด
- Hypoglycemia: ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
- White Dog Shaker Syndrome: โรคสั่น
- Collapsed trachea: โรคหลอดลมตีบ
- Reverse sneezing: อาการระคายเคือง ไอจาม
มอลทิสกับเด็กและสัตว์เลี้ยงอื่นๆ
ใครที่กำลังตัดสินใจพามอลทิสมาเลี้ยงในครอบครัว หากใครมีเด็กอยู่ในบ้าน ควรพิจารณาเรื่องอายุและพฤติกรรมของเด็ก เพราะลูกสุนัขมอลทิสตัวเล็กและบอบบางมาก เด็กๆอาจจะเล่นกับน้องอย่างไม่ระมัดระวัง อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุเป็นอันตรายต่อน้อง มอลทิสยังสามารถเข้ากับสุนัขและแมวได้ดีอีกด้วย ยิ่งถ้าหากน้องได้เข้าสังคมตั้งแต่น้องยังเล็กๆ