มีสุนัขมากมายบนโลกและอาชีพที่เกี่ยวกับการเสริมสวยเสริมหล่อให้สุนัขก็มีอยู่มากเช่นเดียวกัน แต่ถ้าคุณไม่ได้เลี้ยงสุนัขเยอะจนตัดขนเองไม่ไหว หรือเป็นน้องหมาเซเลปในโลกอินเตอร์เน็ตที่ต้องดูดีอยู่เสมอ การตัดขนให้สุนัขด้วยตัวเองเป็นสิ่งที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและทำให้ได้ใช้เวลากับน้องหมาที่บ้านอีกด้วย แต่ถ้าคุณอยากจะซื้อปัตตาเลี่ยนมาตัดขนให้สุนัขสักอันแต่ก็ยังสับสนไม่รู้ว่าควรเลือกแบบไหน
ในบบทความนี้กล่าวถึงความแตกต่างของปัตตาเลี่ยนคนกับปัตตาเลี่ยนสุนัข ประเภทของปัตตาเลี่ยนสุนัข และเคล็ดลับเมื่อต้องใช้ปัตตาเลี่ยนตัดขนให้สุนัขที่บ้าน จะช่วยให้คุณสามารถเลือกซื้อปัตตาเลี่ยนได้ถูกต้องและใช้งานได้คุ้มกับเงินที่จ่ายไป
สินค้าแนะนำจากเรา
ใครที่ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัขยี่ห้อไหนดี จะซื้อแบบไหนให้ถูกใจของเรา NongPetsได้จัดอันดับ 3 ปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัขที่ดีที่สุด เพื่อที่จะให้คุณตัดสินใจง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัขที่ดีที่สุดโดยรวม, ปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัขราคาสบายกระเป๋า และปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัขมีความหลากหลายที่สุด
ปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัข ใบมีดเซรามิค |
|
||
Kemei รุ่น KM-1051 ปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัข มีไฟ LED แสดงสถานะการใช้งาน |
|
||
Petkit ปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัข 2 in 1 |
|
รีวิว 5 อันดับปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัขที่ดีที่สุด
มาตัดแต่งขนน้องหมากันด้วย 7 อันดับปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัขที่ดีที่สุดให้กับน้องหมาของคุณกันเถอะ รับรองว่าหากน้องหมาจะต้องสวยหล่อกันแน่นอน จะซื้อปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัขแบบไหนดี ยี่ห้อไหนโดนใจคุณ NongPets ได้รวบรวมมาให้กันในนี้แล้ว
1. ปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัข ใบมีดเซรามิค (฿186)
รายละเอียดสินค้า
|
ปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัขแบบไร้สาย ใช้ง่าย ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมประสิทธิภาพสูง ใช้ได้นาน ทนทาน ที่สำคัญหัวตัดทำจากเซรามิกไททาเนียมคุณภาพสูง ไม่ทำให้ขนติด และมีดีไซน์การออกแบบมุมแหลมรูปตัว R ทำให้พอดีกับสรีระหัวของน้องหมา ไม่ทำร้ายผิว นอกจากนี้หัวคัตเตอร์ทำงานแบบหมุน โดยวิธีใช้หมุน ใช้ง่าย คล่องมือ มาพร้อมกับหัวมีดหวีความยาว 4 อัน ขนาดมี 3 มม./ 6 มม./ 9 มม./ 12 มม. การเลือกความยาวได้เองนี้ ทำให้เล็มขนน้องหมาได้ง่าย เหมาะสำหรับน้องหมาขนทุประเภท ไม่ว่าจะเป็น ขนหยิก, ขนหนา, ขนยาว และขนเส้นเล็ก
ตัวมอเตอร์มีความถี่สูงและเสียงรบกวนต่ำ ทำให้น้องหมาไม่ตกใจหรือกลัวระหว่างตัดขน และสามารถปรับได้ 5 ระดับความเร็ว แถมเวลาชาร์จก็ง่ายแสนง่าย หัวชาร์จเป็นแบบ USB สามารถชารจ์กับพาวเวอร์แบงก์หรือหัวชาร์จมือถือได้
2. Kemei ปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัข มีหน้าจอ LCD ดิจิตอล (฿430)
รายละเอียดสินค้า
|
ปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัขไร้สาย Kemei รุ่น KM-1991 พร้ออุปกรณืตัดแต่งเล็บ ตัวใบมีดทำจากสตนเลสผสมโลหะอย่างดี ไม่เป็นสนิมใบมีดคมกริบ ตัดได้เรียบเนียน มาพร้อมกับหวี 4 ขนาด 3 มม./ 6 มม./ 10 มม./ 13 มม. และตัวมอเตอร์พลังงานสูง รอบหมุนเร็ว ทำงานเสถียร ไม่ร้อนง่าย เสียงเงียบ ไม่ทำให้น้องหมาตกใจ และสามารถปรับได้ 5 ระดับความเร็ว
ความพิเศษของรุ่นนี้คือมีจอ LCD ดิจิตอลบอกสถานะแบตเตอรี่ในขณะชาร์จหรือใช้งาน แถมยังชาร์จเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น สามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 120 นาที หลังจากแบตเตอรี่หมด สามารถเสียบสายไฟแล้วใช้งานได้ต่อเนื่องไม่มีสะดุด และยังมาพร้อมกับที่ตัดเล็บและตะไปแต่งเล็บสำหรับน้องหมามาให้อีกด้วย
3. Tife ปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัขรุ่น TP2280 (฿305)
รายละเอียดสินค้า
|
ปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัขแบบไร้สาย รุ่น TP2280 ตัดได้ทั้งสุนัขพันธุ์เล็กและใหญ่ หัวใบมีดคมกริบ ตัดได้แม่นยำ แต่ปลายไม่แหลมคม ไม่ต้องกลัวเข้าเนื้อน้องหมา หัวตัดทำจากเซรามิกคุณภาพดี ไม่เป็นสนิมแข็งแรงทนทาน มาพร้อมกับหวี 4 ขนาด 3 มม./ 6 มม./ 9 มม./ 12 มม. แถมยังมีน้ำมันหยอดหล่อลื่นใบมีดให้ด้วย ตัวปัตตาเลี่ยนชาร์จไฟแค่ 1 ชั่วโมงก็ทำงานได้แล้ว
4. Petkit ปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัข 2 in 1 (฿385)
รายละเอียดสินค้า
|
ปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัขดีไซน์เรียบหรู มาพร้อมหัวตัด 2 แบบ 2 in 1 สามารถเลือกตัดได้เฉพาะจุด โดยหัวขนาด 1 ซม. สามารถโกนลึกไปในช่องว่างได้ หมุนได้ 360 องศา เหมาะกับตัดขนในส่วนขนอุ้งเท้า, หูและตา, บริเวณก้น และหัวขนาด 3.2 ซม. ใช้ตัดขนทั่วร่างกาย ตัวใบมีดเหล็กทำจากเซรามิกไทไทเนียม คมกริบ ไม่เป็นสนิม อายุการใช้งานยาวนาน มุมโค้งมนพิเศษรูปตัว R ตัดง่าย ไม่ทำร้ายผิว ใช้ได้ทั้งน้องหมาขนยาวและขนหยิก ตัวมอเตอร์มีเสียงเงียบ ไม่ทำให้น้องหมาตื่นกลัว และแบตเตอรี่ใช้งานได้ 1.30 ชั่วโมง เวลาชาร์จ 5 ชั่วโมง
5. Kemei รุ่น KM-1051 ปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัข มีไฟ LED แสดงสถานะการใช้งาน (฿112)
รายละเอียดสินค้า
|
อีกหนึ่งความคุ้มค่ากับปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัขไฟฟ้า ไร้สาย ตัดง่าย ใช้งานสะดวก ใบมีดทำจากเซรามิคเคลือบไทเทเนี่ยม คมนาน ตัดได้เรียบเนียน ตัดแต่งขนสั้นยาวได้หลายระดับ ตัวเครื่องด้ามจับทำจาก ABS มีแผ่นกันลื่น ช่วยให้จับถนัด กระชับมือขณะตัด มาพร้อมกับหวีรองรูปโค้งมน ตัดขนได้ทุกส่วนของร่างกาย หวีขนาด 3 มม./ 6 มม./ 9 มม./ 12 มม. ส่วนมอเตอร์คุณภาพสูง Pd อัลลอยย์ เสียงเงียบ ทำงานดี รอบหมุนเร็ว ไม่ร้อนง่าย ใครที่กังวลเรื่องเสียงกังวล ลืมไปได้เลย เป็นระบบไร้สายสามารถชาร์จไฟ 3 ชั่วโมง ใช้งานได้ 50 นาที มีไฟ LED แสดงสถานะการใช้งานระว่างใช้และชาร์จไฟ และยังแถมน้ำมันหยอดหล่อลื่นใบมีดมาให้ด้วย
ปัตตาเลี่ยนสุนัข VS ปัตตาเลี่ยนคน
ปัตตาเลี่ยนคนใช้ตัดขนสุนัขได้ไหมนะ?
หากคุณเคยคิดมีความคิดที่จะนำปัตตาเลี่ยนคนมาตัดขนให้สุนัขที่บ้าน ความคิดนั้นไม่ได้ต่างจากคนเลี้ยงสุนัขส่วนใหญ่เลย ทั้งปัตตาเลี่ยนคนและปัตตาเลี่ยนสุนัขมีหน้าตาที่คล้ายคลึงกัน การใช้งานก็คล้ายๆกัน แต่จริงๆแล้วมันจะปลอดภัยและสามารถใช้ร่วมกันได้หรือเปล่า มาดูความแตกต่างของปัตตาเลี่ยนคนและปัตตาเลี่ยนสุนัขกัน
- พลังของมอเตอร์
ปัตตาเลี่ยนคนผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ตัดและโกนเส้นผม ดังนั้นมอเตอร์จึงมีพลังและทนทานในขณะที่ปัตตาเลี่ยนสุนัขมีมอเตอร์ที่พลังน้อยกว่าเหมาะกับการใช้กับสัตว์เลี้ยง ปัตตาเลี่ยนคนไม่เหมาะกับสุนัขเพราะสุนัขจะกลัวเสียงและมอเตอร์ที่มีพลังมากสามารถทำร้ายหรือบาดผิวสุนัขได้
- ใบมีด
ปัตตาเลี่ยนคนมาพร้อมใบมีดที่คมและสามารถตัดเส้นผมความยาวต่างๆให้ขาดได้ง่ายๆ แต่ขนสุนัขไม่ใช่เส้นผม ปัตตาเลี่ยนคนจึงใช้ไม่ได้ผลดีเหมือนตอนที่ใช้ตัดผมคน ดังนั้นควรซื้อปัตตาเลี่ยนของสุนัขโดยเฉพาะ เพราะมีใบมีดที่สามารถตัดขนสุนัขได้อย่างง่ายดาย
- ช่วงความยาวในการตัด
ปัตตาเลี่ยนคนส่วนใหญ่จะใช้กับผู้ชายในการโกนหนวดเคราหรือโกนผม ดังนั้นที่รองหวีจึงอยู่ไม่ไกลจากใบมีด ปัตตาเลี่ยนสุนัขถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้เหมาะกับช่วงความยาวในการตัดและปลอดภัยกับสุนัข
ประเภทของปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัข
1.ปัตตาเลี่ยนแบบมีสาย (Corded Dog Clippers)
มีสายไฟอยู่ที่ท้ายตัวปัตตาเลี่ยนและต้องเสียบปลั๊กเพื่อให้เครื่องทำงาน เป็นที่นิยมทั้งในหมู่ช่างตัดขนสุนัขมืออาชีพและผู้เลี้ยงสุนัขที่ซื้อมาตัดขนเอง มีช่วงราคาตั้งแต่ราคาถูกไปจนถึงราคาแพง บางอันก็มาพร้อมฟังก์ชั่นหลายอย่าง เช่น เสียงเงียบ, สั่นไม่แรง, มีรอบหมุนสูง เป็นต้น
ข้อดี
- ปัตตาเลี่ยนแบบมีสายใช้งานง่ายและสามารถตัดขนสุนัขได้หลายตัวโดยที่ไม่ต้องหยุดเพื่อนำเครื่องไปชาร์จแบต
- โดยทั่วไปจะมีน้ำหนักเบากว่าปัตตาเลี่ยนที่แบตเตอรี่อยู่ภายใน
- มีช่วงราคาให้เลือกหลากหลาย
ข้อเสีย
- ในการตัดขนสุนัขบางครั้งสายไฟก็ไปโดนสิ่งของต่างๆหรือไปโดนตัวสุนัข จะทำให้สุนัขเกิดความเครียดและพยายามขยับตัวหนี ซึ่งทำให้การตัดขนยากขึ้นไปอีก
- ไม่สามารถใช้งานได้ทุกที่
2.ปัตตาเลี่ยนแบบไร้สาย (Cordless Dog Clippers)
ปัตตาเลี่ยนไม่มีสายมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จได้และถูกใช้งานทั้งช่างตัดขนมืออาชีพและมือสมัครเล่น ประเภทของแบตเตอรี่ภายในปัตตาเลี่ยนมีตั้งแต่แบบชาร์จได้ทั่วไป ไปจนถึงแบตเตอรี่ลิเธียมที่ใช้งานได้ยาวนาน
ข้อดี
- สามารถพกพาไปใช้ได้ทุกที่ ไม่จำเป็นต้องหาที่เสียบปลั๊ก
- เคลื่อนที่และตัดได้อย่างอิสระโดยไม่ติดสายไฟ
ข้อเสีย
- แบตเตอรี่ใช้ได้ไม่ค่อยนาน อาจเกิดปัญหาปัตตาเลี่ยนหยุดทำงานขณะที่ตัดขนได้
- ใช้เวลาชาร์จอย่างน้อย45 – 60 นาที
- แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่จำกัด ส่วนใหญ่ต้องเปลี่ยนหลังจาก 1 – 2 ปี
3.ปัตตาเลี่ยนแบบความเร็วเดียว (Single-Speed Dog Clippers)
ปัตตาเลี่ยนแบบความเร็วเดียวก็คือใช้ความเร็วเดียวเท่านั้นในการหมุนใบมีด ไม่สามารถทำให้ใบมีดหมุนเร็วหรือช้าไปมากกว่าที่ถูกออกแบบมาได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องเล็มขนสุนัขออกในช่วงหน้าร้อนเป็นประจำ ส่วนใหญ่จะมีสาย สามารถเปลี่ยนใบมีดได้
ข้อดี
- มอเตอร์และใบมีดจะไม่ร้อนขึ้นเหมือนกับปัตตาเลี่ยนหลายความเร็ว
- ราคาไม่สูง
- เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับมือใหม่เพิ่งเริ่มตัดขนสุนัข
ข้อเสีย
- ไม่สามารถใช้ตัดขนสุนัขบางสายพันธุ์ได้
4.ปัตตาเลี่ยนแบบหลายความเร็ว (Variable-Speed Dog Clippers)
ได้รับความนิยมจากช่างตัดขนมืออาชีพและช่างตัดขนมือใหม่ที่มีงบประมาณพอสมควร สามารถตั้งค่าเพื่อให้ได้ความเร็วต่างกัน แบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือปัตตาเลี่ยนความเร็ว 5 ระดับ ความเร็วต่ำจะช่วยให้ผู้ตัดขนสามารถเก็บรายละเอียดในบริเวณที่ต้องใช้ความพิถีพิถันได้ดี
ข้อดี
- ใช้กับสุนัขได้หลายสายพันธุ์และหลายลักษณะงาน เช่น การตัดขนในบริเวณบอบบาง, การตัดบริเวณที่ขนหนา
ข้อเสีย
- มอเตอร์ดัดแปลงที่ใส่เพิ่มเข้ามาทำให้เครื่องร้อนขณะที่ถือใช้งาน
- มีน้ำหนักมากกว่าปัตตาเลี่ยนความเร็วเดียว เมื่อต้องใช้งานนานๆหรือตัดขนให้สุนัขหลายตัวจะทำให้เมื่อยมือและการเจ็บข้อมือได้
5.ปัตตาเลี่ยนแบบเงียบและสั่นน้อย (Quiet & Low Vibration Dog Clippers)
ปัตตาเลี่ยนชนิดนี้จะมีเสียงเบาและสั่นน้อยที่ทั้งคนตัดและสุนัขสามารถรู้สึกได้ เสียงที่เบาลงของปัตตาเลี่ยนสุนัขมาจากการลดความเร็วการหมุนของมอเตอร์หรือการออกแบบที่ระงับเสียงของเครื่อง
ข้อดี
- ความเงียบและแรงสั่นน้อยช่วยทำให้สุนัขที่ตกใจง่ายหรือขี้กลัวไม่ตื่นตกใจและลดความเครียดของสุนัขลง
- ทำให้การตัดขนราบรื่นและเสร็จเร็วขึ้น เพราะสุนัขไม่หวาดกลัว
ข้อเสีย
- พลังการตัดน้อย เพราะการออกแบบให้เครื่องมีเสียงเบาจะทำให้รอบหมุนของมีดช้าลงไปด้วย จึงยากที่จะใช้กับสุนัขที่ขนหนาหรือตัวใหญ่
- ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบประสิทธิภาพกับปัตตาเลี่ยนที่ราคาต่ำกว่าแต่ตัดขนได้ดีกว่า
6.ปัตตาเลี่ยนแบบมืออาชีพ (Professional Dog Clippers)
ปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัขทุกชนิดที่มีหลายๆฟังก์ชั่นจะวางขายโดยเรียกผลิตภัณฑ์ว่าเป็นปัตตาเลี่ยนแบบมืออาชีพ และช่างตัดขนมืออาชีพมักจะใช้ปัตตาเลี่ยนแบบนี้กัน ใช้ทุกวัน วันละหลายๆชั่วโมง
ข้อดี
- มีความเร็วหลายระดับ
- เสียงเบาและเครื่องไม่ร้อนขณะใช้งาน
- ใบมีดเป็นแบบเคลือบจึงรักษาความคมไว้ได้นาน
ข้อเสีย
- มีราคาสูง
เคล็ดลับเมื่อใช้ปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัขที่บ้าน
1.ศึกษาและเรียนรู้การใช้งานปัตตาเลี่ยน
เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องศึกษาข้อมูลก่อนหากคุณจะเปลี่ยนจากการพาสุนัขไปร้านตัดขนมาเป็นการลงมือทำด้วยตัวเองที่บ้าน เช่น การพูดคุยสอบถามหรือขอคำแนะนำกับช่างตัดขนที่ใช้บริการเป็นประจำ ศึกษาจากยูทูปที่มักจะมีช่างตัดขนมืออาชีพมาทำวิดีโอสอนการตัดขนสุนัขหลายๆแบบและหลายสายพันธุ์
2.ขั้นตอนเริ่มต้นก่อนตัดขน
การอาบน้ำ, หวีขน, และเป่าตัวสุนัขให้แห้งเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องทำก่อนเริ่มต้นตัดขน การพยายามตัดขนที่สกปรกหรือเปียกอยู่จะเกิดการดึงรั้งขนสุนัขทำให้สุนัขบาดเจ็บและสร้างประสบการณ์ที่ไม่ดีกับการตัดขนที่บ้านได้ ดังนั้นต้องอาบน้ำและเป่าขนสุนัขให้แห้งเสียก่อนด้วยดรายสำหรับสุนัข ไม่ควรใช้ดรายของคนเพราะร้อนเกินไปสำหรับสุนัข
3.เลือกปัตตาเลี่ยนที่เหมาะกับการใช้งาน
การใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมไม่เพียงแต่จะช่วยให้งานง่ายขึ้นแต่ยังทำให้ผลงานออกมาดีอีกด้วย เมื่อตัดสินใจจะซื้อปัตตาเลี่ยนสุนัขสักอันหนึ่งควรพิจารณาคุณสมบัติต่างๆ เช่น ความเร็ว, น้ำหนัก, ขนาด, มีสายหรือไม่มีสาย, ใบมีด, ความเงียบ, การดูแลรักษา เป็นต้น และต้องคำนึงถึงชนิดขนของสุนัขด้วย
4.ไม่ต้องกลัวที่จะขอความช่วยเหลือ
เมื่อคุณลองตัดขนด้วยปัตตาเลี่ยนให้สุนัขเป็นครั้งแรกอาจจะยังไม่มั่นใจหรือกลัวๆอยู่ ดังนั้นการขอให้เพื่อนมาเป็นผู้ช่วยก็ถือเป็นความคิดที่ดี เพื่อนของคุณอาจจะช่วยจับหรือปลอบสุนัขตอนที่กำลังตัดขนอยู่ หรือคุณจะช่วยตัดขนให้สุนัขของเพื่อนก็ได้เหมือนกัน หากสุนัขที่ต้องตัดขนเป็นแค่ลูกสุนัข อาจจะต้องใช้เวลาสักพักเพื่อให้ลูกสุนัขเคยชินกับปัตตาเลี่ยนการมีใครสักคนช่วยถือขนมให้สุนัขกินก็เป็นวิธีที่ช่วยได้เช่นกัน
5.ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตัดขนสุนัข
การคอยเล็มขนให้สุนัขอยู่เสมอนั้นดีกว่าการปล่อยให้ขนยาวและต้องตัดขนหนาๆทั้งตัว การปล่อยให้สุนัขขนยาวมากๆแล้วค่อยตัดจะทำให้ปัตตาเลี่ยนทำงานหนักเกินไป ช่วงเวลาที่ควรตัดขนของสุนัขแต่ละตัวนั้นต่างกันขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และลักษณะขนของแต่ละตัว แต่เวลาเฉลี่ยที่ควรตัดขนให้สุนัขคือทุกๆ 6 – 12 อาทิตย์ คุณสามารถนับเวลาและจดไว้เพื่อเป็นการเตือนตัวเองให้ไม่ลืม คนเลี้ยงบางคนก็มีวิธีจำง่ายๆคือตัดขนทุกวันแรกหรือวันสุดท้ายของเดือน
6.เสียงและแรงสั่นสะเทือนของปัตตาเลี่ยน
เมื่อคุณจะเริ่มใช้ปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัข สิ่งสำคัญคือต้องค่อยๆให้สุนัขคุ้นเคยกับเสียงและแรงสั่นของปัตตาเลี่ยนก่อนที่จะลงมือตัด. เริ่มจากการถอดใบมีดออกมาจากตัวปัตตาเลี่ยน จากนั้นนำตัวรองหวีที่ไม่มีใบมีดไปหวีบนตัวสุนัข เมื่อสุนัขไม่ตกใจแล้วให้ลองเปิดเครื่องโดยที่ยังไม่ต้องใส่ใบมีด แล้วนำไปลากๆถูๆบนตัวสุนัขอีกครั้ง ให้พูดชมสุนัขไปด้วยระหว่างที่ทำและให้ขนมเป็นรางวัลที่สุนัขไม่มีพฤติกรรมต่อต้าน ถ้าสุนัขมีท่าทีหวาดกลัวให้ทำแต่ละขั้นตอนอย่างช้าๆ
7.ตัดขนในทิศทางที่ถูกต้อง
ควรตัดขนสุนัขให้ไปทางเดียวกับทางที่ขนขึ้น การตัดขนย้อนจะทำให้ผิวหนังสุนัขเกิดการระคายเคืองและไปดึงขนมากกว่าตัด เวลาตัดควรเริ่มจากบริเวณที่มีพื้นที่เยอะๆก่อน เช่น บริเวณหลังแล้วค่อยไล่ไปหาส่วนที่มีพื้นที่น้อยลง ตัดช้าๆ ในขณะที่ตัดขนสุนัขอยู่ ไม่ควรเลื่อนปัตตาเลี่ยนเร็วเกินไป หากคุณรู้สึกไม่มั่นใจที่จะใช้ปัตตาเลี่ยนตัดขนบริเวณใบหน้าและส่วนบอบบางของสุนัข ให้ใช้กรรไกรแทน
8.ทำให้ปัตตาเลี่ยนคมอยู่เสมอ
ลับคมใบมีดบ่อยๆเพื่อให้สามารถใช้ได้นานและไม่ดึงขนสุนัข ในการลับใบมีดปัตตาเลี่ยน เริ่มจากการทำความสะอาด ใช้น้ำมันและกำจัดสนิมด้วยน้ำยาล้างใบมีด จากนั้นนำไปลับบนหินลับมีด ให้ลับไปเรื่อยๆจนกว่าใบมีดจะดูเป็นเงา
บางทีก็ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนใบมีด อาจจะลองเปลี่ยนไปใช้ใบมีดแบบเคลือบเพื่อคุณภาพและการตัดขนที่ดีกว่า ยี่ห้อปัตตาเลี่ยนที่คุณมีอยู่อาจจะต้องเช็คว่าใช้ใบมีดความยาวเท่าไหร่ก่อนซื้ออันใหม่ เพื่อให้ใส่ได้พอดีกัน
9.ทำให้ปัตตาเลี่ยนเย็นลง
หลายๆคนไม่ค่อยระวังเรื่องผิวหนังไหม้จากการใช้ปัตตาเลี่ยน ให้จำไว้เสมอว่าตั้งแต่เริ่มตัดขนจนเสร็จ ใบมีดจะร้อนขึ้นมากกว่าตอนเริ่มตัด ดังนั้นควรปล่อยให้ใบมีดเย็นลงก่อนจะนำไปตัดในบริเวณที่บอบบางรวมถึงอวัยวะอื่นๆ
ทริคก็คือให้ปิดปัตตาเลี่ยนตอนที่ตัดได้สักพัก จากนั้นลองสัมผัสดูว่าร้อนมากหรือไม่ ถ้าร้อนให้ถอดเปลี่ยนใบมีดหรือวางใบมีดลงบนพื้นผิวโลหะเพื่อให้เย็นลงแล้วจึงค่อยตัดต่อ อาจจะใช้เวลานานสักหน่อยแต่ไม่ต้องกังวล อย่าลืมที่จะเตรียมขนมไว้ใกล้ๆมือจะได้หยิบให้สุนัขกินระหว่างรอ