รีวิว 5 อันดับบ้านสุนัขที่ดีที่สุด

“บ้านสุนัข” เป็นเหมือนพื้นที่ส่วนตัวของเจ้าหมาที่ให้ความสบายกายทั้งกายและใจ ซึ่งบ้านสุนัขนั้นมีความมิดชิดมากกว่ากรง เพราะสามารถกันฝนกันลมได้ดีกว่า แต่รู้หรือไม่ว่าบ้านสุนัขไม่ใช่แค่สิ่งที่ซื้อมาเพียงแค่ที่นอนอาศัยหรือความสวยงามเท่านั้น การเลือกซื้อบ้านสุนัขก็เหมือนกับเวลาเลือกซื้อบ้านคน ที่เราจะต้องพิถีพิถันในการเลือกและคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ

ในบทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับบ้านสุนัขแบบรู้ลึกรู้จริง เราจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับประเภทของบ้านสุนัข และวิธีเลือกซื้อบ้านสุนัขอย่างไรให้เหมาะกับน้องหมาของคุณ รับรองได้เลยว่าหลังจากได้อ่านแล้วคุณจะสามารถตัดสินใจเลือกซื้อบ้านให้น้องหมาแสนรักได้แน่นอน

แนะนำบ้านสุนัขที่ดีที่สุดจากเรา

รีวิว 5 อันดับบ้านสุนัขที่ดีที่สุด

NongPets ได้คัดสรร 5 อันดับบ้านสุนัขที่มีคุณภาพและดีไซน์ที่สวยงาม บ้านสุนัขแบบไหนที่ใช่กับน้องหมาของคุณ

1. บ้านสุนัขขนาดกลาง (฿730)

บ้านสำหรับน้องหมาขนาดกลาง รูปแบบดีไซน์ที่ทันสมัย หลังคาสีสวยงาม มีให้เลือกถึง 6 สี ประกอบด้วย ฟ้า, ชมพู,เทา, น้ำเงิน และบ่านเย็นนฃ วัสดุทำจากพลาสติกเกรดเอ แข็งแรงทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน นอกจากนี้วิธีประกอบบ้านยังง่ายแสนง่าย คุณสามารถประกอบได้เอง แค่ทำตามคู่มือที่ให้มา เราก็สามารถมีบ้านน่ารักๆให้เจ้าตูบของเราได้เพลิดเพลินและมีความสุขในบ้านได้

2. บ้านสุนัขไม้ขนาดใหญ่ (฿299)

สำหรับใครที่มีสุนัขตัวใหญ่และชื่นชอบความเป็นธรรมชาติ เราขอแนะนำบ้านไม้สักสุนัข ที่มาพร้อมกับดีไซน์ลายธรรมชาติที่สวยงามของไม้ สามารถนำไปตกแต่งในสวนหน้าบ้านหรือภายในบ้าน และบ้านหลังนี้ก็ไม่ได้มีเพียงความสวยงามเท่านั้น เพราะตัวบ้านทำจากไม้สักแท้ มีความแข็งแรง ทนทาน ที่สำคัญเป็นงานฝีมือคนไทยส่งตรงมาจากภาคเหนือ เราได้บ้านสุนัขที่สวยงามแล้วยังได้สนับสนุนคนไทยด้วยกันอีกด้วย

3. บ้านสุนัขไม้สีสันสดใส (฿699)

บ้านสุนัขไม้ดีไซน์สวยงาม ทำจากไม้คุณภาพดี แผ่นไม้เรียบเนียน มีความหนาแน่นสูง เป็นมิตรต่อส่งแวดล้อม ปลอดภัยต่อน้องหมาแน่นอน และยังมีดีไซน์สวยงาม สีสันสดใส มีสามสีให้เลือก สีชมพู, สีฟ้าและสีน้ำตาลอ่อน แข็งแรงทนทาน ประกอบง่าย เพียงแค่ทำตามคู่มือ เราก็สามารถเนรมิตบ้านแสนสวยให้น้องหมาของเราได้ ขนาดบ้านมีตั้งแต่ไซ์ M-XL เหมาะกับน้องหมาขนาดกลาง-ใหญ่ ที่สำคัญบ้านหลังนี้มีรูระบายอากาศรูปกระดูกหมา น้องหมาไม่อึดอัดแน่นอน แถมบ้านยังทนแดดทนฝนได้ด้วย

4. บ้านเต้นท์สุนัข พร้อมเบาะรอง (฿88)

บ้านเต้นท์สุนัขดีไซน์สุดน่ารักไม่เหมือนใคร มีให้เลือกด้วยกัน 4 ลาย 4 สี และตัวเตนท์ไม่ได้มีเพียงความน่ารักเท่านั้น เพราะมันมาพร้อมกับฟังก์ชันหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นช่องวงกลมตาข่ายระบายอากาศ น้องหมาไม่อึดอีด, ลวดถือข้างบนทำให้ถือจับง่าย ตัววัสดุลวดทำจาก PVC กันความชื้นไม่เป็นสนิม และตัวผ้าทำจากผ้าโพลเอสเตอร์ ปลอดภัยต่อผิวน้องหมาไม่ระคายเคือง แถมยังมากับที่รองเบาะนุ่มนิ่มอีกด้วย คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม

5. บ้านสุนัขขนาดใหญ่กลางแจ้ง (฿990)

น้องหมาของคนไหนที่ชอบออกแดดกลางแจ้ง เราขอแนะนำบ้านหมาไซส์ใหญ่ ไว้สำหรับให้น้องหมาพักผ่อนหย่อนใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อน เพราะตัวบ้านมีรูระบายอากาศ ระบายความร้อน และกลิ่นอับภายในบ้าน วัสดุบ้านทำจากพลาสติก Polypropylene คุณภาพดี แข็งแรง และทนทานต่อสภาพอากาศ นอกจากนี้หลังคาบ้านมีให้เลือกถึง 3 สีด้วยกัน สีดำ, แดง และฟ้า

ประโยชน์ของบ้านสุนัข

ถ้าคุณเลี้ยงสุนัขแล้วที่บ้านมีพื้นที่สนามหญ้ากว้าง การมีบ้านสุนัขสักหลังถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยประโยน์ของของบ้านสุนัขมีดังนี้

• ในช่วงหน้าร้อนหรือวันที่อากาศร้อน บ้านสุนัขแบบมีแอร์ เป็นที่พักหลบร้อนที่ดี และช่วยป้องกันน้องจากการเป็นลมแดด (Heatstroke)

• เป็นที่กันฝน, ลม, หิมะ และ สภาพอากาศต่างๆเมื่อน้องอยู่นอกบ้าน

• ทำให้น้องรู้สึกปลอดภัย เป็นส่วนตัวและสบาย เพราะสามารถเข้าไปหลบหรือนอนพักผ่อนได้

• บ้านสุนัขที่สวยหรือออกแบบมาไม่เหมือนใครก็ช่วยทำให้สนามหญ้าที่บ้านคุณดูสวยงามมากขึ้น

ประเภทของบ้านสุนัข

1. บ้านสุนัขที่ทำมาจากไม้

ไม้เป็นตัวเลือกที่ดีและยังคงเป็นที่นิยมในการนำมาสร้างบ้านสุนัข เมื่อเทียบกับวัสดุชนิดอื่นไม้มีความทนทานและราคาถูกกว่า

ข้อดี

• วัสดุไม้เป็นฉนวนกันความร้อน ทำให้ในบ้านไม่ร้อนเกินไป
• เหมาะสำหรับตังไว้ข้างนอกบ้าน
• ทนทาน ไม่ผุพังง่าย
• วัสดุไม้สารถป้องกันพวกแมลงอย่าง หมัด, เห็บ และยุงได้
• บ้านสุนัขไม้สามารถทำเป็นงาน DIY และสร้างได้หลายรูปแบบไม่มีจำกัด

ข้อเสีย

• อาจมีอันตรายจากสารเคลือบไม้ที่ส่งผลให้น้องหมาเกิดอาการระคายเคืองผิวหนัง
• ต้องการดูแลรักษาเป็นอย่างสม่ำเสมอ เช่น ต้องหมั่นทาสีบ่อยๆไม่ให้สีซีดจาง เป็นต้น
• น้ำหนักเยอะ เคลื่อนย้ายลำบาก

2. บ้านสุนัขที่ทำมาจากพลาสติก

บ้านพลาสติกกำลังได้ความนิยมเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน ด้วยน้ำหนักเบาที่เบา, ไม่ต้องดูแลมาก และมีหลายรูปแบบ

ข้อดี

• น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก
• ในบ้านอากาศถ่ายสะดวก
• กันน้ำ แข็งแรงทนทาน เหมาะกับน้องหมาที่ชอบทำลายข้าวของ
• บ้านประกอบง่ายถอดเข้า-ออกง่าย
• ทำความสะอาดและดูแลรักษาง่าย
• มีหลายขนาดและหลายรูปแบบให้เลือก

ข้อเสีย

• ตัวบ้านมีช่องเปิดไม่เยอะ ทำให้น้องหมารู้สึกเหงา เหมือนอยู่ตัวคนเดียว
• ไม่เหมาะกับน้องหมาที่ชอบกัดแทะ ทำลายข้าวของ
• ไม่มีฉนวนกันควมร้อน จำเป็นต้องติดตั้งอุปกรณ์เพิ่ม ทำให้ค่าใช้จ่ายสูง
• บ้านที่ทำจากพลาสติกที่ไม่มีคุณภาพ ราคาถูก จะผุพังได้ง่าย
• ไม่เหมาะตั้งไว้ข้างนอก เพราะแสงแดดทำให้พลาสติกกรอบ และพังได้ง่าย
• พลาสติกที่มีคุณภาพดีมักจะมีราคาแพง

บ้านสุนัขประเภทอื่นๆ

• บ้านสุนัขที่ทำมาจากโลหะ

บ้านสุนัขแบบโลหะจะไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก บ้านจะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมทำมาจากสแตนเลสหรืออลูมิเนียม มีความทนทานเพราะสุนัขไม่สามารถกัดแทะได้ ส่วนมากคนขายสุนัขสายพันธุ์ดุร้ายหรือพันธุ์นักล่ามักใช้บ้านประเภทนี้

• บ้านสุนัขแบบเตนท์

เป็นบ้านสุนัขแบบยืดหยุ่นสามารถเคลื่อนย้ายได้ ปกติมักทำมาจากวัสดุกันน้ำ มีน้ำหนักเบา สามารถประกอบและถอดออกได้  เหมาะกับตอนที่พาสุนัขไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมนอกบ้าน แต่ไม่ค่อยเหมาะกับสุนัขที่รู้สึกกระวนกระวายเมื่อต้องโดนขังหรือรูดซิปปิด 

• บ้านสุนัขทำจากผ้า

บ้านสุนัขมีรูปทรงสี่เหลี่ยม ส่วนใหญ่ทำมาจากผ้าไนลอน ทำให้มีน้ำหนักเบาและง่ายต่อการพกพา แต่ไม่เหมาะสำหรับสุนัขที่ชอบกัดแทะและแสดงอาการก้าวร้าวเมื่อต้องอยู่ในบ้านแบบนี้

วิธีการเลือกบ้านสุนัขให้เหมาะสมกับน้องหมาของเราที่สุด

1. วัดขนาดตัวสุนัข

ใช้สายวัด – วัดความสูงตอนยืน(วัดตั้งแต่พื้นจนถึงส่วนบนของหัวสุนัข),  วัดความสูงช่วงหัวไหล่(วัดตั้งแต่พื้นถึงข้อต่อหัวไหล่) และ วัดความยาวของลำตัว(วัดตั้งแต่ปลายจมูกถึงปลายสะโพก)

• บ้านสุนัขควรสูงกว่าความสูงสุนัขตอนยืน 25% เช่น สุนัขของเราตอนยืนมีความสูง 30 นิ้ว ความสูงของหลังคาคือ 38 นิ้ว

• ความสูงของประตูบ้านสุนัขควรเป็น 75% ของความสูงช่วงไหล่ เพื่อให้สุนัขสามารถเข้าบ้านได้อย่างสบาย เช่น สุนัขมีความสูงช่วงไหล่ 20 นิ้ว ประตูควรมีความสูง 15 นิ้ว

• ความยาวของบ้านสุนัข (ตั้งแต่ประตูถึงผนังบ้านด้านหลัง)  ควรมีความยาวอย่างน้อยเท่ากับความยาวของตัวสุนัข แต่ควรยาวกว่าเล็กน้อยเพื่อให้น้องหมาอยู่อย่างไม่อึดอัด

2. เลือกบ้านสุนัขที่มีขนาดเหมาะสม

เมื่อไปร้านขายอุปกรณ์สุนัขและนำน้องหมากับสายวัดไปด้วย ถ้าที่ร้านอนุญาตก็ลองให้น้องหมาเข้าไปในบ้านเพื่อจะได้ดูว่าพอดีกับตัวน้องหรือไม่ ถ้าที่ร้านไม่อนุญาตก็เพียงแค่ใช้สายวัดที่เตรียมมาวัดขนาดบ้านแทน และต้องแน่ใจว่ามีพื้นที่เพียงพอถ้าเราจะใส่ที่นอนหรือตุ๊กตาเข้าไปเพิ่ม 

3. ต้องเป็นบ้านที่เหมาะกับสภาพอากาศทั้งหนาวและร้อน

ในช่วงที่อากาศร้อน บ้านที่มีพื้นที่กว้างอากาศจะถ่ายเทได้สะดวกมากกว่า ส่วนบ้านที่มีขนาดเล็กกว่าจะอบอุ่นกว่าในหน้าหนาว เพราะสามารถเก็บความร้อนจากร่างกายสุนัขเอาไว้ได้ ดังนั้นให้เลือกบ้านที่มีพื้นที่ที่เหมาะสม และต้องไม่ปล่อยให้อุณหภูมิภายในบ้านเย็นเกินไปในช่วงหน้าหนาว สุนัขแต่ละสายพันธุ์มีความอดทนต่ออากาศร้อนและหนาวต่างกัน และบ้านสุนัขไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะป้องกันสุนัขจากสภาพอากาศที่รุนแรงได้ ถ้าหากอุณหภูมิสูงหรือต่ำมากหรือสุนัขกลัวฝน, ฟ้าร้อง,ลมแรง ควรนำน้องหมาเข้ามาอยู่ในบ้านด้วย

4. เลือกวัสดุที่ปลอดภัยและทนทาน

ไม้จริงหรือไม้สังเคราะห์ถือเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะอุณหภูมิบนพื้นผิวไม้จะไม่เปลี่ยนตามอากาศ บ้านที่ทำจากเหล็กและพลาสติกอาจเกิดขอบคมๆทำให้ไม่ปลอดภัยกับตัวน้อง และพื้นผิวจะเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศ หากเราตัดสินใจที่จะซื้อบ้านไม้ ต้องแน่ใจว่าไม่มีส่วนประกอบของสารอันตรายหรือเป็นพิษต่อสุนัขเมื่อน้องกัดแทะไม้เข้าไป ไม้มักจะมีเสี้ยนดังนั้นควรทำความสะอาดพื้นผิวไม้ก่อนจะให้นำบ้านไปให้น้องหมาใช้ และคอยตรวจเช็คหาจุดที่มีความคมหรือเสี้ยนบ่อยๆ

ก่อนจะซื้อควรหาข้อมูลหรือถามคนขายก่อนเพื่อให้มั่นใจว่าบ้านสุนัขมีความทนทานต่อสภาพอากาศร้อน, หนาว, ฝน, สามารถกันน้ำได้ เพื่อเราจะได้มีบ้านสุนัขที่คงทนใช้ได้นานๆ

5. เลือกให้เหมาะสมกับงบประมาณที่มี

บ้านสุนัขจะมีราคาเริ่มต้นเฉลี่ย 3,000 บาท  แต่ถ้างบไม่พอก็สามารถลองคุยกับคนขาย เพื่อคนขายจะได้หาบ้านแบบที่เราต้องการและราคาอยู่ในงบประมาณได้ บ้านสุนัขที่ราคาสูงจะมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น มีเครื่องปรับอากาศ และระบบทำความร้อน  ซึ่งเจ้าสิ่งอำนวยความสะดวกพวกนี้ก็ถือว่าเป็นข้อสำคัญในการเลือกซื้อบ้านสุนัข เช่น ช่วยระบายอากาศ ทำให้น้องหมาอยู่สบายในช่วงหน้าร้อน หรือ คนที่มีบ้านอยู่ในประเทศที่อากาศหนาวการซื้อบ้านที่มีเครื่องช่วยทำความร้อนก็นับว่าคุ้มค่ากับราคา