รีวิว 7 อันดับกรงแมวที่ดีที่สุด

เราต่างก็รู้ดีว่าเจ้านายแมวเหมียวของเรารักอิสระมากแค่ไหน ด้วยสัญชาตญาณความเป็นนักล่าของน้องแมวมาตั้งแต่บรรพบุรุษ น้องจึงเป็นสัตว์ที่ชอบออกไปสำรวจและผจญภัยนอกบ้าน แต่ทำไมทาสอย่างเราๆจึงต้องหากรงมาจำกัดอิสระเจ้านายของเรากันด้วยนะ จริงๆแล้วการให้น้องแมวอยู่ในกรงมีประโยชน์กว่าที่เราคิดไว้ NongPets จึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกรงแมวมาให้ทาสได้เรียนรู้กัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของประเภทกรงแมว,​ ข้อดี – ข้อเสียของกรงแมว, และวิธีเลือกซื้อกรงแมวอย่างไรให้ปลอดภัยต่อน้องแมว

นอกจากนี้เรายังได้คัดสรร 7 กรงแมวยอดนิยมให้คุณได้เลือกซื้อกัน ไม่ว่าจะเป็นกรงแมวมีล้อ, กรงแมวสำหรับเดินทาง, กรงแมวพลาสติก, ฯลฯ รับรองว่าคุณจะได้กรงแมวไปฝากเจ้าแมวเหมียวอย่างแน่นนอน!

แนะนำกรงแมวที่ดีที่สุดจากเรา

สำหรับทาสแมวที่ต้องการตัวช่วยในการตัดสินใจ และอยากรู้ว่าควรซื้อกรงแมวแบบไหนดี NongPets ได้คัดสรร 3 อันดับกรงแมวที่ดีที่สุด ที่จะให้คุณตัดสินใจง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกรงแมวที่ดีที่สุดโดยรวม, กรงแมวราคาถูก สบายกระเป๋า และกรงแมวคุณภาพพรีเมียม

รีวิว 7 อันดับกรงแมวที่ดีที่สุด

สำหรับใครที่กำลังหากรงแมวไว้ที่บ้านหรือเอาไว้สำหรับเดินทาง NongPets ได้ทำการคัดสรร 7 กรงแมวที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคุณภาพ, ราคา และการใช้งาน ดังนี้

1. กรงแมวใช้สำหรับเดินทาง มีหูหิ้ว (฿210)

กรงแมวสำหรับเดินทางมีให้เลือกถึง 11 สี ตัวกรงทำจากพลาสติกแข็งแรงทนทาน ประตูตะแกรงใช้สีพ่นทำสนิมอย่างดี สามารถรองรับน้ำหนักแมวได้ถึง 7 กก. และยังมีตัวล็อคแน่นหนา หมดห่วงเรื่องน้องแมวออกจากกรงเองไปได้เลย และรอบกรงมีช่องระบายอากาศได้ 360 องศา เป็นช่องระบายลมขนาดใหญ่ น้องแมวอยู่ในกรงได้สบายๆไม่อึดอัดแน่นอน นอกจากนี้ใต้แผ่นรองกรงมีแผ่นปูพื้นหนาพิเศษมาให้ เพื่อให้น้องแมวนั่งนอนได้สะดวกสบาย ไม่ปวดหลัง และป้องกันสิ่งสกปรก เอาออกมาทำความสะอาดก็ง่าย พร้อมหูหิ้วจับกระชับมือ เหมาะสำหรับคนที่พาน้องแมวเดินทางออกไปข้างนอกและยังเอาขึ้นเครื่องบินได้อีกด้วย ขนาดของกรงมีให้เลือก 2 ขนาด M (32 x 47 x 32 ซม.) และขนาด L (40 x 60 x 40 ซม.)

2. กรงแมวพับได้ แถมฟรีถาดรองกรง (฿359)

กรงแมวเหล็กผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง พร้อมเสริมความหนา 3 มม. โครงเหล็กเคลือบสารกันสนิม ชุบด้วยสีพิเศษ ทนทานต่อการขีดข่วนและกันกระแทก บิดงอยาก อายุการใช้งานยาวนาน ทนทานแข็งแรง สามารถรองรับน้ำหนักแมวได้ถึง 8 – 10 กก. ตรงพิ้นพลาสติกเป็นแบบ slim slatt สามารถดึงออกมาล้างได้ง่าย พร้อมถาดรองพลาสติกข้างใต้ ใช้รองสิ่งสกปรกต่างๆ ทำความสะอาดก็ง่าย นอกจากนี้กรงยังพับเก็บง่ายเมื่อไม่ใช้งาน ไม่ต้องเสียเวลาถอดประกอบใหม่ เพียงแค่กางออกมาเอาตะขอเกี่ยวกันก็สามารถใช้งานได้ทันที กรงมีให้เลือก 2 สี สีดำและสีเทา มีให้เลือกถึง 3 ขนาด 6 แบบดังนี้

• ขนาด M (50 x 34 x 42 ซม.) มี 2 ประตู ด้านบนและด้านหน้า
• ขนาด L (60 x 43 x 50 ซม.) มี 2 ประตู ด้านบนและด้านหน้า
• ขนาด XL (70 x 50 x 57 ซม.) มี 2 ประตู ด้านบนและด้านหน้า
• ขนาด XXL (85 X 60 X 70 ซม.) มี 2 ประตู ด้านบนและด้านหน้า
• ขนาด L (60 x 43 x 51 ซม.) มี 1 ประตู ด้านหน้าอย่างเดียว
• ขนาด XL (74 x 52 x 61 ซม.) มี 1 ประตู ด้านหน้าอย่างเดียว

3. กรงแมวผ้าเตนท์พับได้ พกพาสะดวก (฿188)

กรงแมวเตนท์ทรง 8 เหลี่ยม ขนาดใหญ่จุใจ สามารถใส่น้องแมวได้หลายตัว รอบกรงมีผ้าตาข่าย PVC ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม แถมน้องแมวยังสามารถสอดส่องดูสภาพแวดล้อมข้างนอกได้ ทำให้น้องไม่รู้สึกอึดอัด ข้างบนเป็นผ้าตาข่ายซิปแบบเปิด ทำให้น้องสามารถมองเราจากข้างบนได้ และยังเข้า-ออกได้สะดวก นอกจากนี้ยังสามารถพกพาง่าย เพียงแค่พับเก็บเมื่อไม่ได้ใช้งาน ตัวกรงทำจากผ้า Oxford ที่มีความยืดหยุ่นสูง น้ำหนักเบา แต่แข็งแรงทนทาน และด้านล่างยังมีพื้นกันความชื้น ป้องกันการลื่นไถล แถมยังนุ่มสบาย รับรองว่าน้องแมวของเรานอนได้สบายตัวแน่นอน กรงมีให้เลือก 3 สี คือ น้ำเงิน, เบจ, แดง และมี 2 ขนาดให้เลือก ขนาด M (75 x 75 x 45 ซม.) และขนาด L (91 x 91 x 60 ซม.)

4. กรงแมวพลาสติกพับได้ ถอดประกอบได้หลายแบบ (฿269)

สำหรับใครที่มีพื้นที่จำกัดในบ้าน เราขอแนะนำกรงแมวตัวนี้เลย เพราะความพิเศษของกรงนี้สามารถประกอบได้หลายรูปแบบ สามารถจัดเก็บได้ง่ายเมื่อไม่มีการใช้งาน จะทำเป็นคอกกรงสี่เหลี่ยมหรือเป็นทำเป็นกรงเหล็กทรงบ้านก็ได้ ตัวกรงทำจากวัสดุพลาสติกแข็งแรงทนทาน และขอบเหล็ก ยึดทรงแข็งแรง กรงรุ่นนี้มีให้เลือก 4 สี ไม่ว่าจะเป็น ดำ, ขาว, ชมพู, ฟ้า และมีให้เลือกทั้งหมด 2 ขนาด คือ กรงเล็ก มีส่วนประกอบ 10 ชิ้น (75 x 111 x 47 ซม.) และกรงใหญ่ มีส่วนประกอบ 14 ชิ้น (111 x 147 x 47 ซม.)

5. กรงแมวมีล้อ พับได้ ขนาดใหญ่ 3 ชั้น (฿1,029)

กรงแมว ขนาดใหญ่จุใจ พับเก็บได้สะดวก เหมาะสำหรับคนที่แมวในบ้านหลายตัวหรือต้องการให้น้องแมววิ่งซนเป็นอิสระได้เต็มที่ ตัวกรงมีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นล่างสุดมีไว้สำหรับใส่กระบะทรายและถาดอาหาร และอีก 3 ชั้นข้างบนเป็นที่นอนสำหรับน้องแมว ข้างในกรงมีบันไดไว้ให้น้องแมวปีนขึ้น-ลงออกกำลังกาย น้องแมวสามารถวิ่งเล่นได้อย่างสนุกสนาน ไม่อึดอัดแน่นอน นอกจากนี้ยังมีประตูเปิดได้ทุกชั้นอย่างสะดวกสบาย วัสดุของกรงทำจากเหล็กเกรด A แข็งแรงทนทาน และเชื่อมด้วยเครื่องจักที่ทันสมัย ผ่านการล้างไขมันและเคลือบกันสนิมอย่างดี และยังพ่นด้วยสีฝุ่นเกรด A ที่ผ่านการอบด้วยความร้อนที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ปลอดภัยกับน้องแมวแน่นอน และไม่เป็นพิษกับสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญกรงมีล้อหมุนเคลื่อนที่ได้ 360 องศา เคลื่อนที่ได้สะดวก และสามารถล็อคได้อีกด้วย กรงมีให้เลือก 2 สีคือ ขาวและดำ ขนาดกรงมี 3 ขนาดดังนี้

• ขนาดเล็ก 47 x 76 x 110 ซม. (ขนาดชั้นนอนข้างใน 25 x 49 ซม.)
• ขนาดกลาง 52 x 76 x 113 ซม. (ขนาดชั้นนอนข้างใน 26 x 52 ซม.)
• ขนาดใหญ่ 57 x 90 x 125 ซม. (ขนาดชั้นนอนข้างใน 32 x 54 ซม.)

6. กรงแมวพับได้ DIY 2-3 ชั้น ออกแบบได้ตามใจ (฿177)

กรงแมวดีไซน์สวยงาม สไตล์มินิมอล ประกอบง่าย สามารถออกแบบได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นแนวสูงหรือแนวนอน ตัวกรงมาพร้อมกับเคเบิ้ลไทร์ (Cable ties) และแผ่นเรซินรองกันลื่น ทำให้กรงยึดเกาะกับพื้นผิวได้ดี ปลอดภัยหายห่วง และยังกันรอยขีดข่วนบนผิวพื้นอีกด้วย ตัวแผ่นเหล็กของกรงทำจากเหล็กคุณภาพสูง ทนทานต่อการกัดกร่อนและรอยขีดข่วน ตัวเชื่อมุมของกรงทำจากพลาสติก ABS แข็งแรง ไม่หลุดง่ายแถมยังช่วยให้ประกอบแผ่นเหล็กได้รวดเร็ว กรงรุ่นนี้แถมบันไดมาให้ 1 ตัว เอาไว้สำหรับให้น้องแมวได้ปีนป่ายอย่างเพลิดเพลิน กรงมีทั้งหมด 2 สี ขาวและดำ มี 2 ขนาดให้เลือก ขนาดเล็ก 2 ชั้น 1 แถว (75 x 39 x 73 ซม.) และขนาดใหญ่ 3 ชั้น 2 แถว (111 x 75 x 109 ซม.)

7. กรงแมวล้อลาก มีห้องน้ำในตัว (฿1,680)

กรงแมวหรือคอนโดแมวสุดหรู มีห้องน้ำบิวท์อินภายในตัว มาพร้อมกับล้อลากเอนกประสงค์ หมุนได้ 180 องศา เคลื่อนที่ไปไหนก็สะดวก เสียงเงียบกริบ ไม่ทำให้น้องแมวตื่นกลัว เจ้าของสามารถล็อคล้อเพื่อความปลอดภัย และยังมีประตูหน้าต่างหลายบาน มีซันรูฟแบบพาโนรามาด้านบน ทำให้น้องแมวเข้า-ออกง่าย ไม่รู้สึกอึดอัด และไม่ต้องห่วงว่าน้องแมวจะออกไปเถลไถล เพราะกรงมีการออกแบบป้องกันการปลดล็อคที่หนาแน่น แถมตัวกรงมีถาดรองสิ่งสกปรกข้างใต้ แค่กดและดึงออกมาทำความสะอาดก็ง่าย วัสดุกรงทำจากท่อสี่เหลี่ยมชุบสังกะสีหนา (Galvanized Square Pipe) ทนต่อการกัดกร่อน ไม่เป็นสนิมง่าย

กรงมีของแถมสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น กล่องขยะแมว, ที่ตักขยะแมว, ชามอาหาร, เปลนอนแมว และปลอกคอแมว เรียกได้ว่าคุ้มสุดๆ กรงมีขนาดใหญ่ น้องแมวสามารถอยู่ได้ 1 – 3 ตัว มีทั้งหมดให้เลือก 3 สี คือ ขาว, ดำ, ชมพู มีหลายขนาดให้เลือกดังนี้

• กรง 2 ชั้น ขนาดเล็ก เหมาะกับลูกแมว 1 ตัว (60 x 45 x 68 ซม.)
• กรง 2 ชั้น ขนาดใหญ่ เหมาะกับแมวโต 1 ตัว (78 x 55 x 100 ซม.)
• กรง 3 ชั้น ขนาดใหญ่ เหมาะกับแมวโต 1 -2 ตัว (78 x 55 x 110 ซม.)
• กรง 4 ชั้น ขนาดใหญ่ เหมาะกับแมวโต 1 -2 ตัว (78 x 55 x 137 ซม.)
• กรง 4 ชั้น คิงไซส์ เหมาะกับแมวโต 1 -2 ตัว (78 x 55 x 138 ซม.)
• กรง 4 ชั้น ขนาดจัมโบ้ เหมาะกับแมวโต 1 -3 ตัว (95 x 65 x 150 ซม.)

ทำไมเราถึงต้องมีกรงแมว?

อย่างที่เรารู้กันมาว่าน้องแมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ชอบเล่นทำกิจกกรมต่างๆนอกบ้าน การขังน้องแมวไว้ในพื้นที่เล็กๆเป็นเวลานานไม่ใช่เรื่องดีสำหรับน้องแมวมากนัก แต่ในบางกรณีน้องจำเป็นต้องอยู่ในกรง เพื่อความปลอดภัยของน้อง หรือในเวลาที่เราต้องพาน้องออกจากบ้านไปหาหมอ 

เราควรคิดถึงความต้องการและเข้าใจความรู้สึกของน้องแมวด้วย น้องแมวเป็นสัตว์ที่ชอบความสะดวกสบายและความอบอุ่น เป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงเห็นน้องแมวชอบหลบซ่อนในกระดาษลังหือในตระกร้าบ่อยๆ ในเวลาที่น้องรู้สึกกลัวหรือกังวล น้องจะทำเหมือนกับตัวเองว่าไม่มีตัวตนอยู่ในโลกใบนี้ ไม่อยากเจอใคร การมีกรงให้น้องได้ซ่อนหลบภัย ก็จะช่วยให้น้องแมวลดความกังวลง่ายขึ้น 

ประเภทของกรงแมว

กรงแมวในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลาย แต่ละประเภทขึ้นอยู่กับน้องแมวของเราว่าจะเหมาะกับกรงแบบไหน โดยหลักๆแล้วกรงแมวจะมีทั้งหมด 5 ประเภท ดังนี้

1. กรงแมวกระดาษลัง

กรงแมวชนิดนี้จะเอามาใช้แค่ชั่วคราวเท่านั้น เพราะกรงแบบกระดาษลังส่วนใหญ่มีแค่ขนาดเดียว ไม่เหมาะกับน้องแมวทุกสายพันธุ์ และน้องแมวไม่สามารถเคลื่อไหวได้มากนักในกล่องลังกระดาษ ทำให้น้องแมวไม่ค่อยสบายตัว นอกจากนี้น้องแมวบางตัวยังชอบกัดหรือข่วนกรง ทำให้กรงกระดาษอยู่ได้ไม่นาน ไม่คงทนถาวร 

กล่องกระดาษจะไม่ค่อยปลอดภัยกับน้องแมวเท่าไหร่ ถ้าหากน้องแมวพยายามผลักเปิดกล่องออกเอง โดยเฉพาะใสถานที่อันตรายอย่างที่จอดรถหรือข้างถนน ของการทำความสะอาด จะทำความสะอาดยากถ้าน้องแมวไปคลุกดินเปื้อนโคลน 

2. กรงแมวทำจากวัสดุอ่อนนุ่ม

กรงแมวชนิดนี้ทำจากวัสดุที่แข็งแรงแต่สามารถยืดหยุ่นได้ กรงจะไม่ใหญ่เทอะทะและแข็งเหมือนพลาสติก ง่ายสะดวกต่อการพกพา ส่วนใหญ่กรงแมวจะมีทางเข้า-ออกมากกว่าหนึ่งทาง ข้อเสียของกรงชนิดนี้คือ ทำความสะอาดยาก เกิดรอยขีดข่วนหรือขาดรุ่ยจากน้องแมวได้ง่าย และน้องแมวอาจจะหาทางออกได้ง่าย ถ้าซิปไม่ได้มีการล็อคอย่างแน่นหนา

3. กรงแมวแบบมีล้อ

กรงแมวแบบล้อลากจะช่วยอำนวยความสะดวกสบาย ทำให้เราไม่ต้องแบกกรงหนักๆ เหมาะสำหรับการเดินทางไกลๆ ข้อดีของกรงแมวแบบล้อลากคือ ส่วนใหญ่จะมาในกรงรูปแบบเปิด ทำให้น้องแมวเห็นสภาพแวดล้อมข้างนอกได้ และมีพื้นที่เยอะทำให้น้องไม่อึดอัด ข้อเสียคือ กรงทำความสะอาดยาก และเสียงของล้อลากอาจทำให้น้องแมวกลัวและวิตกกังวล

4. กรงแมวแบบพลาสติกแข็ง

ข้อดีของกรงแมวชนิดนี้คือมีความแข็งแรงทนทานกว่ากรงชนิดอื่นๆ และมีพื้นที่เยอะให้น้องได้ยืดแข้งยืดขาได้ดดยไม่อึดอัดจนเกินไป ที่สำคัญทำความสะอาดง่าย คราบเปื้อนติดยาก ข้อเสียคือ มีขนาดใหญ่เทอะทะ ต้องมีพื้นที่เยอะในการเก็บรักษา

5. กรงแมวแบบลวดเหล็ก

กรงชนิดนี้จะมาในรูปแบบเปิดโล่ง มีฝาเปิดจากข้างบน ทำให้น้องแมวเห็นสิ่งแวดล้อมใกล้ๆตัว ขนาดของกรงมีให้เลือกตั้งแต่ไซส์เล็กไปจนถึงไซส์ใหญ่ ขนาดเล็กเหมาะสำหรับเวลาที่เราพาน้องแมวออกไปข้างนอก ขนาดใหญ่เหมาะเอาไว้ใช้ในบ้าน 

ข้อดี ของกรงชนิดนี้คือ ตัวฝาเปิดอยู่ข้างบนและมีการล็อคอย่างแน่นหนา ทำให้น้องแมวมีความปลอดภัยมากขึ้น ไม่หลุดออกไปข้างนอกได้ง่าย และยังมีพื้นที่กว้าง น้องไม่อึดอัด 

ส่วนข้อเสียคือ ไม่เหมาะกับน้องแมวที่ขี้กลัว และวิตกกังวลง่าย เพราะตัวกรงเป็นแบบเปิดโล่ง นอกจากนี้อจเกิดอันตรายหากเท้าของน้องสียดสีกับตัวลวดหรือขาติดกับช่องของกรง

ข้อดี-ข้อเสียของกรงแมว

ข้อดีของกรงแมว

1. ปกป้องน้องแมวจากอันตราย 

ไม่ว่าจะเป็นสภาวะแวดล้อมภายนอก และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ เช่น น้องหมา, น้องนก, น้องแรคคูน หรือน้องแมวตัวอื่นที่จะมาทำร้อยน้องแมวเราได้

2. ช่วยดับกลิ่นแมวในบ้าน 

การที่เราเพิ่มห้องน้ำแมวในกรง จะช่วยลดกลิ่นแมวในบ้านมากขึ้น **กฏหลักที่ควรจำ เพิ่มห้องน้ำแมว+1/แมว 1 ตัว**

3. ช่วยให้น้องแมวมีเวลาส่วนตัว

โดยสัญชาตญาณสัตว์ป่าของน้องแมว น้องแมวเป็นนักล่าที่โดดเดี่ยวและหวงพื้นที่ สำหรับบ้านใครที่มีสัตว์เลี้ยงหลายตัว เราควรให้น้องแมวมีเวลาส่วนตัว การมีกรงอยู่ในบ้านจะช่วยคุมพฤติกรรมของน้องได้

4. ช่วยให้คุณสบายใจยิ่งขึ้น

การที่เราได้รู้ว่าน้องแมวอยู่ในที่ที่ปลอดภัยก้ทำให้เราหายกังวล หมดห่วงว่าจะเกิดอุบัติเหตุกับน้องแมวไหม 

ข้อเสียของกรงแมว

1. น้องแมวเกิดความเครียด

โดยธรรมชาติแล้วน้องแมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ชอบอกไปเล่นกิจกรรมข้างนอก เช่น ปีนป่ายต้นไม้ เป้นต้น หากเราขังน้องแมวอยู่ในกรงนานเกินไป อาจทำให้น้องเครียด และเกิดอาการซึมเศร้าได้ 

2. น้องแมวนิ่งเงียบ ไม่เคลื่อนไหว

การที่ขังน้องแมวในกรงเป็นเวลานาน ทำให้น้องแมวไม่ได้ออกไปเล่นข้างนอกหรือทำกิจกรรมต่างๆ อาจทำให้การพัฒนากระดูกของน้องช้าลง เคลื่อนไหวช้าลง ซึ่งก่อให้เกิดโรคต่างๆตามมาภายหลังได้

3. น้องแมวเป็นโรคอ้วน

หากน้องแมวอยู่ในกรงนานๆ ไม่ได้ออกกำลังกายจะทำให้น้องแมวอ้วนง่าย และป่วยเป็นโรคต่างๆได้ง่าย ทำให้น้องมีชิวิตที่สั้นลง

4.  น้องแมวฉลาดน้อยลง

การที่น้องแมวไม่ได้ออกไปทำกิจกกรมข้างนอก จะทำให้น้องแมวเป็นสัตว์ขี้กลัว ไม่สนใจสิ่งต่างๆรอบตัว ไม่มีความงสัยอยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

5. น้องแมวมีปัญหาเรื่องการย่อยอาหาร

น้องแมวก็คล้ายๆคนเรา หากน้องแมวไม่ได้ออกกำลังกายเลย และเรายังให้อาหารแมวเรื่อยๆ จะทำให้น้องแมวไม่ได้ใช้พลังงาน ระบบเผาผลาญจะทำงานแย่ลง ในระยะยาวทำให้น้องแมวมีอาการท้องอืด ก่อให้เกิดโรคท้องผูกหรือท้องเสียไ้ด้ง่าย

วิธีเลือกซื้อกรงแมว

หากเราต้องการลงทุนซื้อกรงแมวดีๆซักกรงหนึ่ง เราควรคำนึงหลายๆปัจจัยในการเลือกซื้อ เพราะกรงแต่ละชนิดมีความเหมาะสมกับแมวแต่ละสายพันธุ์ที่แตกต่างกันออกไป มาดูกันว่าสิ่งที่เราควรพิจารณาก่อนซื้อกรงแมวมีอะไรบ้าง?

1. ขนาดของกรง

น้องแมวควรมีพื้นที่ให้เหยียดแข้ง เหยียดขาและพลิกตัวได้ เคล็ดลับในการเลือกซื้อคือ ควรเลือกขนาดกรงใหญ่กว่า 1.5  เท่าของตัวน้องแมว เราไม่ควรเลือกกรงที่มีขนาดใหญ่กว่าตันวน้องแมวมากจนเกินไป เพราะจะทำให้น้องไม่สบายตัว โดยเฉพาะเวลาเราพกกรงออกไปข้างนอก หากกรงขนาดใหย่เกินไป จะทำให้น้องกลิ้งไปมา อาจทำให้น้องเวียนหัวได้

การเลือกขนาดกรงให้ลูกแมวเล็ก

หากใครที่กำลังเลี้ยงลูกแมว ควรเลือกกรงขนาดที่เหมาะน้องในเวลาที่น้องโต เราามารถใส่ผ้าห่มหนาๆ เพื่อป้องกันน้องแมวกลิ้งไปมาลาเดินทางได้

2. ข้างในกรงแมว

หากใครที่จะซื้อกรงสำหรับเดินทาง เราควรดูว่าข้างในกรงมีที่ใส่อาหาร, ถ้วยใส่น้ำ และห้องน้ำแมวไหม 

3. คุณสมบัติประตูและตัวล็อคของกรงแมว

• ประตูทางเข้าเดี่ยว/หลายทางเข้า

ประตูทางเข้าเดี่ยวจะเหมาะกับน้องแมวที่ขี้กลัวหรือน้องแมวที่ดื้อ ไม่อยากเข้ากรงไปอยู่ในกรง

ประตูหลายทางเข้าจะเหมาะกับน้องแมวที่หาทางเข้าประตูเอง เพราะน้องแมวบางตัวไม่ชอบเข้าประตู้ทางข้างหน้า แต่จะเข้าประตูทางข้างบนเอง และยังเหมาะเวลาที่พาน้องไปหามอ เพราะหมอสามารถตรวจรักษาน้องได้โดยที่ไม่ต้องเอาน้องออกจากกรง

• เสียงกลอนประตู 

เสียงกลอนประตูเวลาเราปิดล็อค อาจทำให้น้องเกิดความหวาดกลัวได้ แนะนำให้เลือกกลอนแบบพลาสติกเพราะความดังของเสียงลดลง และสำหรับตัวล็อคเป็นแบบซิปจะไม่เหมาะกับน้องแมวที่ชอบผลักเปิดประตูเองได้

วิธีฝึกให้น้องชินอยู่ในกรงแมวทำอย่างไร?

หากเลือกซื้อกรงแมวได้แล้ว น้องแมวหลายตัวยังไม่คุ้นชินกาารอยู่ในกรงนัก แต่เราสามารถฝึกน้องแมวให้อยู่ในกรงได้ เริ้มจากการฝึกในบ้าน วิธีการง่ายๆคือ ให้ใส่ผ้าห่มนุ่มๆและของเล่นไว้ในกรง และหมั่นให้อหารและขนมน้องในกรงบ่อยๆ เพื่อให้น้องคุ้นชิน จากนั้นเมื่อน้องเริ่มคุ้นกับการอยู่ในกรง ให้ลองปิดประตู และฝึกเดินถือรอบบ้านหรือพาออกไปขับรถนอกบ้านในระยะเวลาสั้นๆ

เคล็ดลับในการวางกรงคือ เราควรวางกรงไว้ในที่ที่น้องแมวชอบไปอยู่ในบ้าน เพราะจะทำให้น้องแมวคุ้นชิ้นกับกรงจนติดเป็นนิสัย ทำให้น้องอยากอยู่ในกรงมากขึ้น

วิธีทำความสะอาดกรงแมวทำอย่างไร?

วิธีทำความสะอาดเล็กๆ สามารถทำได้เป็นประจำ

1. ปล่อยให้น้องอยู่ในกรงได้ หากน้องมีความกังวลให้น้องอยู่ในถุงกระดาษหรือกล่องกระดาษซ่อนตัวไว้ 
2. ถ้าน้องจำเป็นต้องออกมาจากกรง ให้น้องออกมาอยู่ในลังกระดาษไปก่อน ลักระดาษาควรเป็นลังใหม่ใช้เฉพาะน้องแมวของเราเท่านั้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
3. ล้างทำความสะอาดห้องน้ำแมวแล้วเก็บเอาไว้ในที่เดิม หรือจะใช้ถุงมือหยิบสิ่งสกปรกออก
4. ใส่น้ำและอาหารใหม่ จะล้างถ้วยอาหารก้ต่อเมื่อมีคราบสกปรกมากเท่านั้น
5. เอาผ้าห่มหรือผ้าปูมาเขย่าฝุ่นออกข้างนอกแล้วใส่กลับเข้ากลับในที่เดิมใหม่ จะเปลี่ยนผ้าปูใหม่ก็ต่อเมื่อผ้าปูสกปรกมากเท่านั้น
6. ทำความสะอาดคราบต่างๆด้วย ผ้าเปียกหรือทิชชู่เท่านั้นห้ามใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ
7. ในขณะทำความสะอาด ควรระวังไม่ให้สัมผัสแมวมากที่สุด เพราะเราอาจแพร่เชื้ออันตรายให้น้องได้

วิธีทำความสะอาดกรง หากกรงสกปรกมาก

1. ย้ายน้องแมวเอาไปใว้ในลังกระดาษสะอาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
2. ย้ายของออกจากกรงให้หมด ล้างถ้วยอาหาร, ถ้วยน้ำ และของเล่นด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ และซักผ้าปูในเครื่องซักผ้า
3. ล้างกรงด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ควรอ่านฉลากน้ำยาฆ่าเชื้อว่าเราควรใช้ปริมาณไหนที่เหมาะสม และประเภทน้ำยาฆ่าเชื้อของกรงแต่ละชนิด เพราะถ้าเราใช้ผิดประเภท น้ำยาอาจทำปฏิกิริยากับวัสดุของกรง อาจทำให้เกิดการกัดกร่อนกรง และเป้นอันตรายต่อน้องแมวได้
4. ขัดกรงด้วยแปรงไนลอนขนแข็งให้ทั่วทุกซอกทุกมุมของกรง
5. ซับกรงให้แห้งด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์หรือที่รีดซับน้ำ จากนั้นรอให้กรงแห้งสนิท
6. หากกรงแห้งแล้ว ให้รองก้นพื้นกรงด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ 4-5 ชั้น จากนั้นใส่ของทุกอย่างเข้าที่เดิม