น้องหมาพลังงานสูง พละกำลังเยอะ ร่างกายแข็งแรง ถึงแม้ว่าภายนอกของน้องจะดูน่ากลัวก็ตาม แต่ความจริงแล้ว น้องก็เป็นหมาที่น่ารักอีกสายพันธุ์หนึ่ง วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับความน่ารักของน้องพิทบลู ว่ามีนิสัยอย่างไร เลี้ยงอย่างไรไม่ให้มีนิสัยดุร้ายอย่างที่เลี่ยงลือกัน ต้นกำเนิดมาจากไหน รวมถึงวิธีการเลี้ยงและดูแลน้องพิทบลูให้แข็งแรง สุขภาพดี
สำหรับใครที่กำลังคิดว่าน้องพิทบูลเหมาะที่จะนำมาเลี้ยงเป็นเพื่อนไหม หรือเหมาะเอาไว้เฝ้าบ้านหรือเปล่านั้น NongPets เลยจะมาแนะนำและไขข้อสงสัยว่าจะเหมาะกับคุณหรือไม่ ลองมาอ่านบทความนี้ดูกัน
ต้นกำเนิดของอเมริกันพิทบูล
ต้นกำเนิดของพิทบูลนั้น มีมาตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ในประเทศอังกฤษ ไอร์แลนด์ และสก็อกแลนด์ ต้นตระกูลของพิทบูลเกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างบูลด็อกและสุนัขในกลุ่มเทอร์เรีย เพราะว่าต้องการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่เพื่อนำไปใช้ในการล่อหมี วัวกระทิง ต่อมาในค.ศ. 1800 มีการแบนสุนัขเพื่อใช้การนี้ จึงมีการถูกเพาะพันธุ์เพื่อใช้ในกีฬาต่อสู้สุนัขเท่านั้น ด้วยเหตุนี้พิทบูลจึงเป็นหมาสายพันธ์ุที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความดุร้าย
แต่ในอีกด้านหนึ่งของการพัฒนาสายพันธุ์นี้ไม่ได้ตั้งใจจะพัฒนาเพื่อให้มีนิสัยดุร้าย หรือทำร้ายคน แต่จะเป็นการพัฒนาในด้านความแข็งแรง และสามารถปกป้องคนได้ อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในเรื่องของความอ่อนโยนและเป็นมิตรกับครอบครัวอีกด้วย
เนื่องจากมีการโต้เถียงเกี่ยวกับต้นกำเนิดของพิทบูล จึงทำให้สุนัขพันธุ์พิทบูลยังไม่ได้รับการขึ้นทะเบียน โดย American Kennel Club จึงต้องจำเป็นก่อตั้งชมรมแยกออกมา เพื่อขึ้นทะเบียนให้แก่สุนัขพันธุ์นี้ ชมรมแรกคือ United Kennel Club (UKC) ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1898 โดย C.Z. Bennett ผู้ก่อตั้ง Bennett’s Ring เป็นชมรมอันดับหนึ่งในการขึ้นทะเบียนน้องพิทบูล ทำให้พิทบูลได้รับการขึ้นทะเบียนครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ชมรมที่สองคือ American Dog Breeder Association (ADBA) เริ่มต้นในปี 1909 จากสมาคมที่มีสุนัขหลายพันธุ์ แต่เน้นสุนัขพันธุ์พิทบูลเป็นหลัก เนื่องจากประธานสมาคม Guy McCord เป็นผู้ที่ชื่นชอบสุนัขพิทบูลมาก
ลักษณะของพิทบูล
ลักษณะทางกายภาพ
- น้ำหนัก: 14-40 กิโลกรัม
- ความสูง:42-48 เซนติเมตร
- สายพันธ์: Terrier
- ขน: มีลักษณะสั้น เรียบ และมันวาว
- สีขน: มีหลากหลายสี เช่น แดง, น้ำตาล, ดำ และขาว เป็นต้น (ขนาดและสีที่หลากหลายเกิดขึ้นจากการผสมข้ามพันธุ์ปะปนกันระหว่างบูลด็อกและสุนัขในกลุ่มเทอร์เรีย)
- ลักษณะเด่น: มีลำตัวยาวและหางที่สั้นลักษณะคล้ายแส้ปลายแหลม หูขนาดเล็กจนถึงขนาดกลางตั้งอยู่บนหัวที่กว้างและแบน
- ช่วงชีวิต: มีอายุประมาณ 12-14 ปี
นิสัยและพฤติกรรมทั่วไป
ด้วยเกียรติศักดิ์เรื่องความดุร้ายของเจ้าหมาพิทบูล บางคนแค่ได้ยินชื่อก็ไม่กล้าเข้าไปเล่นด้วยแล้ว แต่นิสัยโดยทั่วไปของน้องพิทบูลคือขี้เล่นและเป็นมิตร ชอบเอาอกเอาใจผู้คน และยังชอบการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจอีกด้วย เพราะน้องเป็นหมาที่มีพลังงานล้นเหลือ แถมยังมีสัญชาตญาณในการปกป้องและไม่มีความกลัว
ผู้ที่เหมาะสมเลี้ยงน้อง ต้องเป็นคนที่ที่มีความเป็นผู้นำสูง ใจแข็ง ไม่ใจอ่อนกับน้องง่าย ๆ และต้องมีเวลาฝึกน้องอย่างสม่ำเสมอ การฝึกน้องตั้งแต่น้องยังเล็กๆจะดีที่สุด ควรสอนให้รู้จักกฎของบ้าน เพราะน้องเป็นหมาที่มีพลังงานสูง หากน้องไม่ผ่านการฝึกเป็นประจำ น้องอาจทำลายข้าวของและทรัพย์สินได้ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้คนและสัตว์อื่น ๆ ด้วย
ตามธรรมชาติของน้องพิทบูล ถ้าหากน้องไม่ได้รับการฝึกและออกกำลังกาย น้องจะมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว โดยการทำลายข้าวของ อย่างเช่น กัดแทะข้าวของ ขู่กัด ปัญหาเหล่านี้มักทำให้เจ้าของของปวดไปตามๆกัน
ด้วยพลังงานที่สูงปรี๊ดของน้อง น้องพร้อมจะทำกิจกรรมโลดโผนต่าง ๆ เช่น การเล่นสปริงโพล , ลากน้ำหนัก , กระโดดไต่กำแพง ซึ่งเราขอแนะนำให้ทำกิจกรรมเหล่านี้สลับกับการออกกำลังกาบด้วยการเดิน การว่ายน้ำ ถ้าเจ้ากลัวว่าน้องจะเหนื่อไหม หรือเป็นอันตรายหรือเปล่า ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เลย ยิ่งน้องพิทบูลได้ปลดปล่อยพลังงานมากเท่าไหร่ พวกน้องก็ยิ่งนิ่งสงบ ควบคุมได้ง่ายมากขึ้น
ถึงเจ้าพิทบูลจะมีสัญชาติญาณนักล่าอยู่ในตัว แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้น้องมีความก้าวร้าวต่อคน แต่เป็นน้องพิทบลูที่รักเด็กซึ่งน้องสามารถเรียนรู้ที่จะไม่แสดงความก้าวร้าวต่อสุนัขตัวอื่นได้
วิธีการเลี้ยงและดูแลพิทบูล
น้องพิทบลูเป็นหมาที่มีพลังงานสูง ดังนั้นผู้เลี้ยงต้องหมั่นใส่ใจดูแลน้องทั้งเรื่องการฝึกฝนน้องให้เชื่อฟัง การออกกำลังกาย คุณภาพของอาหาร และกิจวัตรชีวิตประจำวันของน้อง Nongpets จะมาแนะนำวิธีการเลี้ยงดูและดูแล รวมไปถึงเรื่องสุขภาพ เพื่อให้น้องพิทบลูมีสุขภาพที่แข็งแรง และเจริญเติบโตเต็มวัย
วิธีการเลี้ยงดู
เนื่องจากน้องพิทบูลกระตือรือร้นมาก น้องพิทบูลจึงจำเป็นต้องได้รับการออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน ยิ่งใช้แรงเยอะยิ่งดี เพื่อไม่ให้น้องพิบลูเบื่อและแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว การพาไปเดินเล่นนอกบ้านเป็นสิ่งที่สำคัญในการฝึกเข้าสังคมของน้องพิทบูล เพื่อเรียนรู้ที่จะเล่นอย่างเหมาะสมกับสุนัขตัวอื่น อย่างไรก็ตามเจ้าของไม่ควรละสายตาหรือปล่อยให้สุนัขพิทบูลไปวิ่งไล่สัตว์อื่นที่แสดงท่าเหมือนกำลังวิ่งหนี
และสิ่งที่ขาดไม่ได้เวลาพาน้องพิทบูลออกจากบ้านคือ ต้องใส่สายจูงทุกครั้ง เพื่อเป็นการเซฟความปลอดภัยของตัวน้องเอง เป็นการระวังอุบัติเหตุต่าง ๆ เพราะเราไม่สามารถควบคุมน้องได้ตลอดเวลา และการที่ใช้สายจูงทุกครั้งที่ออกจากบ้านก็ยังเป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมที่เป็นมารยาทของคนเลี้ยงหมาทั่วโลกต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดอีกด้วย
น้องพิทบูลเป็นน้องหมาที่มีนิสัยเฉพาะตัว ไวต่อสิ่งเร้า และพลังงานสูง บางครั้งการเลี้ยงรวมกับน้องหมาตัวอื่น ๆ ก็อาจจะก่อให้เกิดปัญหาได้ถ้าไม่ได้รับการจัดอันดับฝูงที่ดีพอและเจ้าของของน้องไม่มีความเป็นจ่าฝูง น้องหมาอาจเกิดการปะทะกันเองทำให้เกิดอันตรายทั้งต่อตัวของน้องหมาและเจ้าของได้
อาหารของพิทบูล
น้องพิทบลูเป็นหมาที่ตัวใหญ่และใช้พลังงานเยอะ ฉะนั้นเจ้าของควรจะใส่ใจกับคุณภาพอาหารของน้อง และให้ในปริมาณที่เหมาะสม โดยปริมาณอาหารนั้นก็ยังขึ้นอยู่กับขนาด, อายุ, ปริมาณการเผาผลาญ และกิจกกรรมในแต่ละวัน
ปริมาณอาหารที่แนะนำ: ควรให้อาหารเม็ดปริมาณ1.5-2.5 ถ้วยตวง วันละสองมื้อ
หากน้องมีรูปร่างและน้ำหนักที่มากเกินไป เจ้าของควรควบคุมอาหารน้องด้วยการชั่งตวงอาหารแล้วให้อาหารเป็นมื้อ แทนการปล่อยอาหารไว้ในถ้วยทั้งวัน วิธีสังเกตว่าน้องอ้วนขึ้นหรือไม่ ดูได้จาก เราจะสามารถเห็นเอวของน้องได้ และทดสอบโดยใช้นิ้วมือคลำที่กระดูกสันหลังของน้องเบาๆ ถ้าเราคลำหากระดูกสันหลังไม่เจอ แสดงว่าน้องอ้วนขึ้น ต้องลดน้ำหนักน้องโดยด่วน เพราะอาจมีปัญหาสุขภาพตามมาได้
วิธีดูแลรักษาพิทบูล
การดูแลรักษาความสะอาด
ควรอาบน้ำเมื่อตอนจำเป็นเท่านั้น แต่การอาบน้ำให้น้องทุกวัน จะช่วยป้องกันขนร่วงได้ด้วย
การรักษาความสะอาดในช่องปาก ควรแปรงฟันให้น้องอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อเป้นการกำจัดหินปูน และแบคทีเรียในช่องปาก การแปรงฟันให้น้องทุกวันก็จะสามารถป้องกันโรคเหงือก และกลิ่นปากได้
การตัดแต่งเล็บ ควรตัดเล็บให้น้องเดือนละ 1-2 ครั้ง เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บและปัญหาอื่นๆที่ตามมา
การดูแลรักษาขนของพิทบูล
ขนของน้องพิลบลูสั้น เรียบ จึงง่ายต่อการดูแลรักษา การทำความสะอาดขนของน้องจะเป็นการอาบน้ำเป็นครั้งคราว และการแปรงขนด้วยแปรงแข็งและเช็ดด้วยผ้าสะอาดก็เป็นการช่วยรักษาความเงางามของขนน้องได้
สุขภาพของพิทบูล
เนื่องจากน้องพิบลูมีความเป็นนักกีฬาและมีพื้นฐานสายพันธุ์ที่หลากหลาย จึงทำให้มีความอดทนสูง มีอายุยืนกว่าสุนัขพันธุ์อื่นที่มีขนาดตัวใกล้เคียงกัน โรคทางพันธุกรรมที่ควรระวัง ได้แก่ โรคเกี่ยวกับกระดูก เช่น ข้อสะโพกเสื่อม ไขสันหลังเสื่อม และสะบ้าเคลื่อน นอกจากนี้ยังมีโอกาสเป็นโรคผิวหนัง ได้แก่ ไรและภูมิแพ้ เนื่องจากมีขนสั้น ปัญหาสุขภาพอื่นที่พบได้ ได้แก่ โรคเกี่ยวกับต่อทไทรอยด์และโรคหัวใจที่เป็นโดยกำเนิด
พิทบูลกับเด็กและสัตว์เลี้ยงอื่นๆ
พิทบลูเป็นหมารักเด็กและชอบเล่นกับเด็ก แต่ถึงอย่างไรนั้น ผู้ปกครองก็ไม่ควรทิ้งเด็กไว้ตามลำพังกับพิทบลู และควรสอนให้เด็กรู้จักการเข้าหาพิทบูล เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย
เจ้าพิทบลูสามารถเข้ากับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆได้ หากได้รับการฝึกเข้าสังคมตั้งแต่ยังเด็กๆ และเพื่อความปลอดภัยน้องพิทบลูควรได้รับการดูแลในสถานที่ที่มีสัตว์เลี้ยงอื่นอยู่เสมอ
หลังจากที่ได้ทำความรู้จักนิสัยใจคอ และธรรมชาติของน้องพิทบูลแล้ว ก็อาจจะทำให้ใครหลายคนที่ยังลังเลที่จะเลี้ยงน้อง ได้ตัดสินใจง่ายขึ้น ถึงแม้ว่าภายนอกของน้องพิทบลูจะดูน่ากลัวไปบ้างแต่ถ้าน้องได้รับความเอาใจใส่ และได้รับการฝึกฝนตั้งแต่เนิ่นๆ น้องพิทบลูก็เป็นหมาที่น่ารักและเป็นเพื่อนที่แสนดีของเราได้
